ขนอม…ชื่อนี้คุ้นหูผมมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ยังไม่เคยได้ไปเยือนเลยซักครั้ง
จนได้มีโอกาสไปก็ผ่านมาแล้วกว่า 30 ขวบ ชื่อนี้ก็ยังติดหูผมอยู่เสมอ
ขนอมมีอะไร หลายครั้งที่ได้ยินแต่ชื่ออำเภอ แต่เราก็ไม่สามารถจินตนาการออกได้ว่าที่นี่มีอะไรเที่ยว
แล้วทำไมถึงเป็นที่นิยม ถึงคุ้นหูมาตั้งแต่เด็ก จึงเกิดคำถามข้างต้นหลายครั้งก่อนที่เดินทางไปเยือน
โลมาสีชมพู ทะเล ทะเล และทะเล เมื่อหาข้อมูลของขนอม ก็จะพบแต่ข้อมูลเบื้องต้น
แต่ใครจะไปรู้หล่ะว่า ขนอมเนี่ยแหล่ะ คืออำเภอที่คู่รักเหมาะมาเที่ยวเป็นอย่างมาก
หรือจะพาครอบครัวมาพักผ่อน หรือมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ขนอมตอบโจทย์ทุกความต้องการ
อย่ารอช้า มาร่วมเดินทางไปหาความโรแมนติกด้วยกัน…“ขนอม ดินแดนโรแมนติกริมฝั่งอ่าวไทย“
ตอนที่แล้วผมได้พาเพื่อนๆไปเที่ยวตัวเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช
แล้วไปต่อด้วยล่องแพไม้ไผ่บ้านวังหอน เป็นทริปแบบวันเดียวชิวๆ กิน เที่ยว ครบ
Link ตอนแรกครับ –> นครศรีดี๊ดี ตอนแรก
และตอนนี้ผมขอนำเสนออีกหนึ่งมุมมองของนครศรีธรรมราชกับของดีอย่างอำเภอขนอม
ขนอม ในมุมมองของความโรแมนติก อำเภอที่มีที่เที่ยวหลากหลาย
ดินแดนโรแมนติกริมฝั่งอ่าวไทย มาทำความรู้จักกับ อำเภอ ขนอม กันให้มากขึ้นเลยดีกว่า ^^
ขนอม เป็นหนึ่งในอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นอำเภอที่มีชายหาดที่สวยงาม
มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีที่พักสวยๆ ร้านอาหารทะเลสดๆ รวมถึงร้านคาเฟ่ริมทะเลเก๋ๆ
ทำให้อำเภอขนอม มักเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากท่าเรือที่สามารถไปขึ้นเรือเพื่อไปเกาะสมุยได้
รวมถึงเป็นที่เที่ยวที่สงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน ดังคำขวัญประจำของขนอมที่ว่า
“ขนอมพร้อมมูล เทิดทูลคุณธรรม
ถ้ำสวย รวยชายหาด น้ำตกหินลาด
พระธาตุปะการัง ป่า เขา ทะเล
คือเสน่ห์ของขนอม”
จากสนามบินนครศรีธรรมราช มาอำเภอขนอม ใช้เวลาในการขับรถประมาณ 1 ชม นิดๆ
จะเห็นวงเวียนปลาโลมาสีชมพู ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของขนอม
ที่ขึ้นชื่อเรื่องการมาชมโลมาสีชมพู ณ ท้องทะเลแห่งนี้ที่เดียวในเมืองไทย
ไม่ไกลจากที่พัก บนเขาเปร็ต จะมีจุดชมวิวที่มองเห็นทะเลได้ไกลสุดลูกหูลูกตา
จุดชมวิวเนินเทวดา เนินนางฟ้า เป็นจุดชมวิวที่อยู่บนเนินเขาเล็กๆ
แต่เห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลได้อย่างชัดเจน
วิวทะเลสวยๆ หาดทรายทอดยาวของขนอม อีกหนึ่งจุดชมวิวที่ไม่ต้องขึ้นไปไกล
รถก็สามารถขึ้นมาได้ไม่ยาก แถมไม่เสียค่าเข้าชมอีกด้วย (แต่เสียค่าที่จอดรถคันละ 40 บาท)
ที่นี่เปิดตั้งแต่ 6.00 – 20.00 น. ชมวิวได้ทั้งยามเช้าพระอาทิตย์ขึ้นและยามเย็นตอนพระอาทิตย์ตก
จากจุดชมวิวเนินเทวดา มาที่พักห่างกันประมาณ 5 นาที ซึ่งถือว่าไม่ไกลมาก
แถมได้บรรยากาศที่พักริมทะเลสวยๆอีกด้วย AAVA Resort & Spa
ที่จอดรถอยู่ด้านหน้า ส่วนตรง Lobby เป็นแบบเปิดโล่งรับลมจากธรรมชาติ
และที่พักมีหลายแบบ ตอบโจทย์ทั้งแบบเข้าพักเป็นครอบครัว Family Villa
แบบวิวสวนอย่าง Deluxe Villa และ Superior Villa
รวมทั้งแบบที่ผมเข้าพักที่มีอยู่ 6 หลัง Poolside Villa ติดสระน้ำ
Poolside Villa ห้องขนาด 38 ตารางเมตร มีระเบียงด้านหน้าสามารถออกไปเล่นน้ำได้จากห้องพัก
ส่วนห้องน้ำมีขนาดกว้างมากกกก มีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำ
ห้องพัก Poolside Villa จะใช้สระส่วนกลางร่วมกัน เปิดประตูห้องมาก็สามารถเล่นน้ำได้เลย
แต่ไม่ใช่ Private Pool ของแต่ละห้อง สระนี้มีความลึกสูงสุดอยู่ที่ 2 เมตร (บริเวณกลางสระ)
จากสระน้ำสามารถมองออกไปเห็นทะเลขนอม ในช่วงเวลาที่ท้องฟ้าเป็นใจ
ทะเลที่นี่สีสวยสุดๆ เล่นน้ำไปมองทะเลไปหรือถ้าเบื่อๆก็ออกไปเล่นทะเลได้
กับหาดส่วนตัว ทอดยาว ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวในช่วงวันพักผ่อนดีๆแบบนี้
ห้องอาหารติดทะเล เป็นบรรยากาศเปิดโล่งรับลมจากธรรมชาติอีกเช่นกัน
มีทั้งนั่งด้านในและนั่งรับลมทะเลด้านนอก
อาหารเช้าเป็นแบบเมนูให้เลือก แต่รับรองได้ว่าอิ่มจุใจ กับเมนูเน้นสายสุขภาพอย่างดี
อย่างไข่ขาวออมเล็ท หรือจะเป็นอกไก่ที่คนกำลังควบคุมน้ำหนักนั้นน่าจะชอบเป็นพิเศษ
ขนอม มีอะไรให้เที่ยวบ้าง?
ถ้าไม่ไกลจากที่พักก็คือจุดชมวิวเนินเทวดา เนินนางฟ้า ที่ได้กล่าวไว้ในตอนต้น
แต่ถ้าขับรถเลยมาทาง อ.สิชล ที่เที่ยวขนอมยังมีอีกหลายแห่ง
ขอต้อนรับสู่วิวบนเขาสูงอย่าง จุดชมวิวเขาพลายดำ
เขาพลายดำ เป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งทะเลใต้ มีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง คือ
หาดหินงาม หาดในเพลา ซึ่งบนจุดชมวิวแห่งนี้ยังสามารถมองเห็นหาดทั้งคู่และอ่าวท้องยางได้จากมุมสูง
เขาพลายดำวันนี้ยังคงสภาพป่าที่สมบูรณ์ สถานที่นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์พันธุ์ไม้ป่าและสัตว์ป่า
ซึ่งที่เที่ยวบริเวณเขาพลายดำนี้ไม่ได้มีแค่จุดชมวิว แต่ยังมีถ้ำสวยๆ น้ำตก รวมถึงจุดชมนกนานาชนิด
ขับรถเลยมาจากจุดชมวิว จะมีเส้นทางลัดไปหาดในเพลา หาดที่ขึ้นชื่อของขนอม
หาดในเพลา เป็นหาดที่ดังที่สุดของอ่าวขนอม เป็นที่รู้จักของท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เป็นหาดที่อยู่ทางตอนใต้สุดของอ่าว ลักษณะเป็นแนวยาวโค้งครึ่งวงกลมขนานกับแนวภูเขา
ที่ตอนปลายยื่นไปในทะเล ทรายขาวสะอาดเหมาะสำหรับเล่นน้ำ
บริเวณหาดจะมีที่พัก ร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
หรือถ้าอยากนั่งทานอาหารวิวเก๋ๆ ริมทะเล ผมขอแนะนำ ร้าน Summer Beach
ที่ตั้งอยู่ริมหาดหัวถนน มีทั้งโซนด้านในอาคาร และโซนด้านนอกนั่งมองทะเล
ร้านนี้เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 12.00 – 23.00 น. โซนด้านนอกมีที่นั่งหลายแบบให้เลือก
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทั่วไป หรือจะเป็นเบาะนุ่มๆโต๊ะเล็กๆ
อาหารออกไม่ช้า รสชาติอาหารโอเค และราคาไม่แรงเกินไป
อิ่มอร่อยได้ทั้งของคาวและของหวาน หรือยามค่ำคืนก็สามารถมานั่งดริ้งกับเพื่อนฝูงได้
หรือแบบส่วนตัวหน่อยที่เน้นโทนสีฟ้ากับสีขาว ตัดกับสีท้องทะเล
ยามกลางคืนเปิดไฟแล้วโรแมนติกสุดๆในบริเวณนี้ ^^
และมุมยอดฮิตนั่งเล่นชิวๆบนตาข่าย มองทะเล ห้อยขา ดื่มด่ำกับบรรยากาศ
ที่นี่จึงเหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งมากับผองเพื่อน หรือมาเป็นคู่สวีทน่ารักๆ ^^
มาถึงไฮไลท์สำคัญของการมาเที่ยวขนอมในครั้งนี้
กับการนั่งเรือชมโลมาสีชมพู ซึ่งมีแห่งเดียวในประเทศไทย ขนอม เท่านั้น
เรือที่จะพานักท่องเที่ยวไปชมโลมาสีชมพูมีหลายเจ้า แต่ของผมเลือกเจ้าของวิสาหกิจชุมชน
เป็นเจ้าแรกก่อนถึงแหลมประทับ ซึ่งตรงบริเวณนั้นส่วนใหญ่ เป็นเอกชนมาร่วมกันทำทั้งสิ้น
ค่าเรือลำละ 1000 บาท นั่งได้ไม่เกิน 7 คน มีพาไปไหว้พระ และเที่ยวตามที่ต่างๆ
ระยะเวลารวมประมาณ 2-3 ชม. ข้อแนะนำควรมาถึงตั้งแต่เช้า
เพราะโลมาจะออกหาอาหารกันตอนเช้า และจะได้ไม่ร้อนด้วยครับ
จุดแรกที่เรือแวะคือ เกาะนุ้ยนอก เกาะเล็กกลางทะเล แต่มีสิ่งที่มหัศจรรย์
ทำให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ Unseen เนื่องจากบนเกาะนี้
มีบ่อน้ำจืดที่มีรูปร่างคล้ายกับรอยเท้าขนาดกว้างประมาณ 30 นิ้ว
สามารถมองเห็นได้ในตอนที่น้ำทะเลลดลง จนได้ชื่อว่า
เป็นสถานที่แห่งตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
บนยอดสูงสุดของเกาะมีรูปปั้นเหมือนหลวงปู่ทวดประดิษฐานอยู่ 2 องค์ มีทั้งองค์สีเขียวและสีดำ
ให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านรวมถึงชาวประมงที่ออกเรือได้ขึ้นมากราบไห้วขอพรให้ปลอดภัย
ซึ่งหลวงปู่ทวดบนเกาะนุ้ยนอก เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านบริเวณนี้มาช้านาน
จากนั้นพี่คนขับเรือก็ได้พาไปชมไฮไลท์ของการมาในครั้งนี้
นั่นคือ โลมาสีชมพู เย่ๆๆๆ และแล้วก็ได้เจอตัวเป็นๆตัวจริง สีสวยสีหวานน่ารักมากครับ
ไปถึงเจอเรือประมงชาวบ้านที่ออกไปหาปลาแล้วพอจับปลาตัวเล็กๆได้
ก็นำมาเป็นอาหารให้กับเจ้าโลมาน้อย ที่ผมเห็นละแวกนี้ก็ประมาณ 2 ตัว แม่ลูกกัน
พี่คนขับเรือเล่าให้ฟังว่า โลมาตอนเล็กๆตัวจะมีสีดำแต่พอโตขึ้นมา
ถึงเปลี่ยนสีเป็นสีชมพู และที่เห็นว่ายคู่กันอยู่นั้นโลมาตัวลูกจะติดตัวแม่
แม่ไปไหน ลูกไปด้วย ก็จะได้เห็นโลมา 2 ตัวแหวกว่ายขึ้นมากินปลาอยู่เรื่อยๆ
ที่นี่ถือเป็นจุดชมโลมาสีชมพูที่โด่งดังมากที่สุด เนื่องจากนั่งเรือจากฝั่งมาไม่ไกล
ประมาณ 10 นาที และสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ถ้าวันไหนที่น้ำลง โลมาพวกนี้จะไปว่ายโชว์ตัว
อยู่แถวท่าเรือน้ำลึกที่มุ่งหน้าไปเกาะสมุย ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากตรงนี้
มาดูเจ้าโลมาสีชมพูแบบคลิป VDO กันบ้าง แหวกว่ายอย่างสนุกสนาน
นี่แหล่ะท้องทะเลธรรมชาติที่แท้จริง ^^
เต็มอิ่มกับโลมาสีชมพู โดยพี่คนขับเรือก็ไม่ทักอะไรผม เลยเพลินไปกับการถ่ายรูปเกือบ ชม บริเวณนั้น
ไปชมที่ต่อไปกับ เวทีพุ่มพวง ไม่ไกลจากจุดชมโลมาจะเห็นหาดเล็ก และมีหินเป็นเหมือนลานเวที
พี่คนขับเรือเล่าให้ฟังว่า ในอดีต ศิลปินชื่อดังอย่างพุ่มพวง ดวงจันทร์
เคยมาบนไว้และได้จัดคณะมาแก้บน ที่หาดแห่งนี้ ตรงนี้เลยถูกเรียกว่า เวทีพุ่มพวง
ไปยังจุดต่อไปนั้นก็คือ เขาหินพับผ้า ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ทางธรณีวิทยาที่เห็นได้บนเขาหิน
และเกาะบางเกาะในทะเลขนอม บริเวณเกาะถ้ำหรือเกาะท่าไร่ ลักษณะที่เห็นจะเป็นแผ่นหิน
ที่ทับซ้อนเรียงกันเป็นชั้นๆสูงขึ้นไป ด้านบนมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมหลากชนิด
เต็มอิ่มกับบรรยากาศทะเลขนอม พวกผมก็ได้แจ้งพี่คนขับเรือให้กลับเข้าฝั่ง
ระหว่างทางได้ผ่านป่าชายเลน และได้เห็นการอยู่ของชาวประมงที่มีอาชีพหลักคือการจับปลา
ได้เห็นว่าท้องทะเลที่นี่ยังคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์จริงๆ
เมื่อกลับมาจากล่องเรือดูปลาโลมาสีชมพูแล้วทางผมเช็คเอ้าท์จากที่พักและมุ่งหน้าไปสนามบิน
เพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่องกลับ กทม. ไฟลท์ขากลับของนกแอร์ มี 3 ไฟลท์ต่อวัน และบินทุกวัน
ซึ่งทำให้สะดวกต่อการเดินทางมานครศรีธรรมราชมากครับ
เครื่องออกตรงเวลาไม่ดีเลย์ แถมมีขนม น้ำ ทานเล่นบนเครื่องอีกด้วย
และแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้อง บ๊าย บาย นครศรีธรรมราช กัน
เพียงแค่ไม่กี่วัน จังหวัดนี้ทำให้ผมอยากกลับมาเที่ยวอีกครั้งได้โดยไม่รู้ตัว
ขนอม ชื่อนี้ก่อนมาผมไม่ได้รู้สึกอินอะไรมาก ว่าจะมีอะไรให้เที่ยวมากน้อยแค่ไหน
แต่หลังจากที่ได้มาสัมผัสโดยตรงแล้ว กลับรู้สึกดีและชอบเป็นพิเศษ
ทะเลสวย หาดทรายขาวทอดยาว แถมยังเหมาะกับการมาพักผ่อนอีกด้วย
ทำให้ขนอมเป็นที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะมาสนุกกับเพื่อนหรือมาสวีทโรแมนติกกับแฟน
เพราะความสวยงามของที่นี่ยินดีโอบรับนักท่องเที่ยวทุกคนให้ได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง
และผมเชื่อว่าที่ นครศรีธรรมราช ยังมีอีกหลายที่ที่รอให้ได้ไปสัมผัสด้วยตัวคุณเอง
ลองหันมาเที่ยวนครศรี จังหวัดที่มีที่เที่ยวมากมายหลายที่ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก
แล้วจะทำให้อีกหลายคนเปลี่ยนความคิดเหมือนผม…“นครศรีดี๊ดี นครศรีดีกว่าเดิม”
ติดตามข้อมูลนครศรีธรรมราชได้ที่ https://www.facebook.com/NakhonsiAwesomeplus
หรือทางเว็บไซท์ http://www.nakhonsiawesome.com/2015.2/
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^