เคยคิดมั้ยว่า วันหยุดพักผ่อนจากการทำงานในวันเสาร์ อาทิตย์
อยากจะไปหยุดชาร์ตแบตชาร์ตพลังชีวิตที่ไหนซักแห่ง แต่อยากจะไปในที่ใกล้ๆ
ไม่ต้องขับรถไปไกล มีที่เที่ยวหลากหลาย มีที่ถ่ายรูปชิคๆคูลๆ
มีเพื่อนฝูงที่รู้ใจไปกันกับ The Gang , ไปกับครอบครัว หรือไปสวีทกับคนรัก
ให้เวลา 3 วินาที… 3 2 1 !!!
นึกสถานที่ออกหรือยังเอ่ย ถ้ายังนึกไม่ออก
ตามผมกับผองเพื่อนไปเที่ยวสถานที่ Unseen สถานที่ที่ยังเป็นที่ผู้คนไม่ค่อยนิยม
แต่ไปสนุกได้กับคนทุกเพศทุกวัย…
“หนีกรุงไปเที่ยวกาน (กาญจนบุรี) กันครับ”
ผมคงไม่ต้องมากางแผนที่จังหวัดนี้ให้ดูว่าตั้งอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย
แต่คงมาตอบคำถามเพื่อนหลายๆคนที่ถามผมว่า “จังหวัดกาญจนบุรีมีที่เที่ยวอะไรบ้าง?”
หลายคนรู้จักจังหวัดนี้ในชื่อของสถานที่ที่โด่งดังอย่าง
น้ำตกไทรโยค น้ำตกเอราวัญ เขาช้างเผือก เส้นทางรถไฟสายมรณะ และอื่นๆอีกมากมาย
ผมบอกไปตั้งแต่ตอนต้นและครับว่า ชื่อสถานที่เหล่านี้ไม่มีในรีวิวแน่นอน
เพราะผมจะพาไปที่แปลกตาแต่มีความสุขไม่ต่างกัน ^^
เสาร์ อาทิตย์ คือเวลารวมตัวของผมและ The Gang (8 คน)
ออกไปเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ ขับรถไปกันเอง 2 คัน วางแผนกันไม่ถึงเดือน ชื่อของกาญจนบุรี
ก็โผล่ขึ้นมา จังหวัดนี้น่าเที่ยว มีที่เที่ยวหลากหลาย เมื่อตกลงเสร็จรีบจองที่พักและหาข้อมูลทันที
ออกตัวล้อฟรีตั้งแต่ 9.00 น. ขับรถประมาณ 2 ชม. ถึง อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี
สถานที่เที่ยวแรกที่บอกว่าเป็น Unseen ที่ทำให้พวกผมตื่นตาตื่นใจได้คือ
ต้นจามจุรียักษ์ กรมการสัตว์ทหารบก กองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1
ต้นจามจุรียักษ์ หรือต้นก้ามปูยักษ์ มีอายุมากกว่า 100 ปี ขนาด 10 คนโอบ
เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจและไม่ไกลจากตัวเมืองกาญจนบุรีมากนัก
ความใหญ่โตของต้นไม้และกิ่งก้านสาขาสวยงามร่มรื่น แผ่กิ่งก้านสาขาสวยงาม
พิกัดหาไม่ยาก ตั้งอยู่ในอำเภอด่านมะขามเตี้ย สามารถเดินทางเข้าไปใน
กองการสัตว์ และเกษตรกรรมที่ 1 (กองผสมสัตว์) กรมการสัตว์ทหารบก
(Search Google Map ชื่อ กองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1) เข้าไปข้างใน
มีป้ายบอกตลอดทางชัดเจน ไม่มีค่าเข้าชม เวลาเปิด 06.00 – 18.00 น. ทุกวัน
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายรูปกับผองเพื่อนมากๆ ^^
พักเที่ยงแปป แวะเข้าตัวเมืองซึ่งห่างออกไปไม่ไกล (ประมาณ 10 นาที) มีร้านอาหารขึ้นชื่อริมแม่น้ำ
ครัวชุกโดน (ชุก-กะ-โดน) เปิด 10.30 – 22.30 น. ทุกวัน
ผมเลือกทานตรงแพริมน้ำซึ่งได้บรรยากาศดี (Search Google Map ชื่อ ครัวชุกโดน)
สั่งมาแปปเดียวหมดเกลี้ยงทันที (ไม่ค่อยหิวเท่าไร ><)
อิ่มท้องแล้วเตรียมตัวเข้าเช็คอินเข้าที่พักสำหรับคืนนี้
Anantara River Hills (Search Google Map ชื่อ Anantara River Hills) ที่พักเหนือเขื่อนศรีนครินทร์
ที่มีห้องพักทั้งแบบแพบนน้ำและเป็นห้องบนบก ผมจองที่พักช้าไปเลยได้นอนห้องบนบก
ที่พักบริเวณเขื่อนศรีนครินทร์มีหลายที่ ซึ่งแต่ละที่จะเน้นเล่นกิจกรรมทางน้ำ เครื่องเล่นต่างๆ
และสนุกสนานกับผองเพื่อนที่มากันเป็นก๊วน ^^
หรือสำหรับใครสนใจอยากจองที่พั
https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/city/mueang-kanchanaburi-district-10000655
เพราะที่นี่เค้าไม่มีค่าธรรมเนี
ชนิดที่ว่าไม่มีบัตรเครดิตก็
วิวฝั่งนี้จะได้ชมพระอาทิตย์ตกจากด้านหน้าห้องพอดี ^^
สำหรับผู้ที่มาเข้าพักที่จะลงเล่นกิจกรรมทางน้ำทุกชนิด
ต้องสวมเสื้อชูชีพที่มีวางไว้ให้ทุกครั้ง ก่อนลงเล่นกิจกรรมทางน้ำ
ช่วงตอน 16.00 น. จะมีบริการแพเปียกฟรีให้กับผู้ที่มาเข้าพักได้เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
แพเปียกคืออะไร??? แพเปียกคือการลากแพออกไปในเขื่อน โดยที่แพต่อติดกันยาวๆ
รองรับจำนวนคนได้มาก แล้วพอแพจะจอดตรงจุดที่ให้กระโดดน้ำ
สามารถกระโดดเล่นน้ำกันได้สนุกสนาน เพลิดเพลินลืมเหนื่อยกันเลย ^^
มาชมคลิป VDO สนุกสนานตอนกระโดดน้ำกันดีกว่า ^^
เปียกแล้วต้องเอาให้คุ้ม เมื่อกระโดดน้ำเล่นแพเปียกเสร็จ ตัวไม่ต้องแห้ง
มาเล่นเครื่องเล่นทางน้ำของที่พักกันต่อ เครื่องเล่นนี้ฟรีทุกอย่าง ยกเว้นเจ๊ทสกีที่เสียค่าใช้จ่ายอย่างเดียว
เป็นเครื่องเล่นเป่าลมพองโตลอยอยู่กลางน้ำ เล่นได้ทุกเพศทุกวัย แต่อย่าลืมหยิบเสื้อชูชีพ
ไปใส่ก่อนเล่นทุกครั้งด้วยนะ ^^
หรือจะนำเรือคายัคออกไปพายชมวิวเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ก็ชิวไม่น้อย
วิวช่วงพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าอีกครั้ง มองดูแล้วเหมือนมัลดีฟ
แต่เป็นมัลดีฟน้ำจืดที่ตั้งอยู่เขื่อนศรีนครินทร์
ยามดึกเมืองกาญจนบุรีไม่ได้เงียบเสมอไป อาบน้ำแต่งตัวและออกมาหาของอร่อยทานกันที่
“ถนนคนเดินปากแพรก” ถนนคนเดินเส้นนี้เปิดทุกวันเสาร์เวลา 16.00 – 21.30 น.
ตั้งอยู่อำเภอเมือง เป็นชุมชนที่เก่าแก่ที่สุด (Search Google Map ชื่อ ปากแพรก)
นอกจากจะได้ชมสถาปัตยกรรมอันงดงามและทรงคุณค่าของอาคารบ้านเรือนและวิถีชีวิตของผู้คน
ที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ เรายังจะได้ชมการแสดงพื้นบ้าน ดนตรีพื้นเมืองที่ลานกิจกรรม
จัดแสดงภาพเก่าและภาพร่วมสมัยของเมืองกาญจน์อีกด้วย
ถนนคนเดินปากแพรก เป็นถนนคนเดินที่มีเสน่ห์ในตัว ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนที่เก่าแก่ที่สุดในกาญจนบุรี
ช่วงตอนกลางวันก็สามารถมาเดินถ่ายรูปตามอาคารบ้านเรือน หรือจะมานั่งจิบกาแฟใช้ชีวิต Slow Life
ส่วนตอนกลางคืนทุกวันเสาร์จะมีถนนคนเดิน ยิ่งครึกครื้นมากกว่าเดิม
อิ่มอร่อยกับอาหารโบราณ ที่หาไม่ได้ง่ายนักในสมัยนี้
อย่างขนมทองโย๊ะ (ขนมกะเหรี่ยง) อาหารพื้นเมืองของชาวกะเหรี่ยง
จัดอยู่ในประเภทอาหารหวาน หรือของว่าง
ภาษากะเหรี่ยงเรียกว่า หมี่สิ แปลว่า ข้าวบดทำจากข้าวเหนีวยนึ่ง งาดำคั่วกับเกลือ โขลกรวมกัน
จนเป็นเนื้อเดียว ปัจจุบันขนมทองโย๊ะได้มีการพัฒนาโดยการนำหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
แล้วทอดในน้ำมันให้กรอบ ด้านนอกจะกรอบส่วนด้านในจะมีมีลักษณะหนึบๆของข้าวเหนียว
รับประทานคู่กับ นมข้นหวานหรือว่าน้ำผึ้งก็ได้
บถนนเส้นนี้ไม่ได้มีดีที่ขนมทองโย๊ะ แต่ยังมีขนมและอาหารอีกหลายอย่าง
ที่หาชิมได้ยากแล้วในสมัยนี้ ถ้าเพื่อนๆคนไหนเดินทางมาเที่ยวกาญจนบุรี
แล้วตรงช่วงวันเสาร์พอดี ช่วงเย็นๆอย่าลืมแวะมาเดินหาของอร่อยทานกันที่ถนนคนเดินแห่งนี้ด้วยนะครับ ^^
รุ่งเช้าทานอาหารเช้าจากที่พักและสายๆเช็คเอ้าท์เพื่อไปเที่ยวที่อื่นต่อก่อนกลับ กทม.
จากเขื่อนศรีนครินทร์มาไม่ไกลนักมีวัดอยู่วัดนึงที่ถูกเรียกว่า Unseen
“วัดทัพศิลา” (Search Google Map ชื่อ วัดทัพศิลา) จากประวัติที่ได้ศึกษามาคร่าวๆ
สถานที่แห่งนี้ถูกค้นพบจากการที่เจ้าอาวาสได้นิมิตรฝันถึงช้าง 3 เชือก
ที่ถูกฟันเข้าที่ขา และเสียชีวิตลงที่นี่
ด้านในมีหินเทพช้าง มีลักษณะเป็นกลุ่มหินมีรูปร่างคล้ายช้างหมอบอยู่
และจมอยู่ที่พื้นที่เกือบครึ่งตัวภายใต้อาคารมีหลังคาคลุมทรงแปดเหลี่ยม มีระดับความลึกลงไป
จากระดับพื้นดินประมาณ 2 เมตร มีความเชื่อกันมาว่า เทพช้างมีความศักดิ์สิทธิ์มาก
หากใครที่ได้มีโอกาสมาจุดธูปอธิษฐาน และนำผลไม้ที่ช้างชื่นชอบ อาทิ กล้วย อ้อย สัปปะรด ฯลฯ มาถวาย
แด่ “เทพช้างวัดทัพศิลา” และขอพรที่ตนปรารถนา ก็จะได้ตามสิ่งที่ปรารถนา
ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ในบริเวณวัดนี้คือ พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง
ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาบริเวณด้านหลังของวัดทัพศิลาแห่งนี้
ก่อนไปแวะเที่ยวอีกที่ ช่วงเข้าตัวเมือง พวกผมแวะทานข้าวกลางวันกันที่บ้านกลางฟาร์ม
เปิดเวลา 11.00 – 23.00 น. ทุกวัน ที่นี่มีแกะให้ชมอยู่ด้านหน้าด้วยนะ ^^
(Search Google Map ชื่อ บ้านกลางฟาร์ม)
ตัวร้านมีทั้งแบบนั่งสวน (เหมาะในช่วงเวลาตอนเย็น) และในห้องแอร์
การตกแต่งเรียบง่ายออกแนวโมเดิร์นวินเทจนิดๆ แต่ทีเด็ดของที่นี่คือ ราคาและรสชาติอาหาร
ซึ่งบอกเลยว่า รสชาติอร่อยถูกปากคนกรุงอย่างพวกผม และราคาที่เห็นแล้วต้องขยี้ตาหลายรอบ
เพราะถูกกว่าที่คิดไว้ค่อนข้างมาก ไปทานกัน 8 คน สั่งอาหารมา 9 อย่าง
ราคา 9xx บาท แทบจะหาราคาแบบนี้และรสชาติอร่อย บรรยากาศดีได้ยากจริงๆ ^^
ก่อนกลับ กทม. แวะไหว้พระขอพรซักนิด กับ 1 ในสถานที่ที่ทาง ททท. โปรโมทท่องเที่ยว
ในโครงการ “เขาเล่าว่า” กับพระปรางค์ขอฝน วัดทิพย์สุคนธาราม
วัดทิพย์สุคนธาราม ตั้งอยู่ใน อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ซึ่งวัดนี้มีสิ่งที่โดดเด่น คือ
“พระพุทธเมตตา ประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” จัดสร้างเนื่องในโอกาสมหามงคล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา และในโอกาสที่
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปี 2555
โดยมีความหมาย คือ เป็นที่พึ่งของ 3 โลก (Search Google Map ชื่อ วัดทิพย์สุคนธาราม)
พระพุทธเมตตาฯ เป็นพระพุทธรูปปางขอฝนเนื้อสำริดที่ใหญ่ที่สุดในไทย ซึ่งพระปางขอฝน
ได้ถูกใส่ไว้ให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตามตำนานเขาเล่าว่าของ ททท. ว่า
ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาลนั้นฝนแล้งมากแต่ด้วยพระพุทธบารมี
ได้ทรงพลิกพื้นที่แห้งแล้งให้มีน้ำฝนหลั่งไปทั่วทุกสารทิศ และที่อำเภอ ห้วยกระเจา
คือ อีสานของจังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นที่มาของพระปางขอฝนที่สุดแห่งความศรัทธา
มีความเชื่อว่าการสร้างพระพุทธรูปดังกล่าว
จะทำให้พื้นที่บริเวณนั้นเกิดความชุ่มชื้นมากขึ้นจากพุทธานุภาพปางขอฝน
เป็นอย่างไรบ้างกับสถานที่เที่ยวที่ไม่ไกลจาก กทม. ครบทุกรส และใช้เวลาไม่นาน
ซึ่งผมได้รวบรวมจุดสถานที่เที่ยว ที่กิน ทำเป็นเส้นทางตามรูทที่ผมได้เดินทางไปในครั้งนี้ด้วย
ตามรูปด้านล่างนี้เลยครับ
เมื่ออ่านรีวิวจบ หลายๆสถานที่ในรีวิวนี้จะทำให้เพื่อนๆเปลี่ยนใจเก็บกระเป๋าไปชาร์ตแบตชีวิต
ในสุดสัปดาห์นี้ได้หรือยัง กับที่เที่ยวใกล้กรุงที่เราหนีกรุงไปเที่ยวกาน (กาญจนบุรี)
หลายที่อาจไม่คุ้นตา หรือเพิ่งจะเคยได้ยินชื่อ แต่สถานที่เที่ยวเหล่านี้
ได้ดึงดูดผมและผองเพื่อนให้อยากกลับไปเที่ยวกาญจนบุรีอีกหลายๆครั้ง
ขอบคุณชาวบ้านที่น่ารักเมืองกาญจนบุรี ที่ต้อนรับ ยิ้มแย้มตลอดทางยามถามทาง
ขอบคุณเพื่อนๆ The Gang ที่ร่วมสนุกเฮฮาในทริปนี้
ขอบคุณวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ที่ทำให้ผมได้ไปชาร์ตแบตแล้วพร้อมที่จะกลับมาทำงานต่อไป
เก็บเป๋าหนีกรุงไปเที่ยวกาน…
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^