กระบี่ อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่คนไทยจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เพราะอาจถูกจำกัดด้วยกรอบค่าใช้จ่ายของที่พักและค่าเดินทาง จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก แต่ถ้าเอ่ยถึงกระบี่ หลายคนจะนึกถึงสระมรกต ไร่เลย์ อ่าวนาง เกาะพีพี ฯลฯ แต่สำหรับเราสองคนแล้ว ภาพแรกที่นึกถึงกระบี่ คือ ภาพภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง สอดรับกับภาพทะเลสีสวยที่อยู่เบื้องหน้า รายล้อมด้วยป่าชายเลนที่สมบูรณ์ ให้ความรู้สึกแบบกรีนโดยแท้ สำหรับเรื่องที่พักก็เป็นเรื่องสำคัญ คงจะดีไม่น้อย ถ้าเราได้พักที่โรงแรมที่ได้มาตรฐาน ทำเลดี พรั่งพร้อมด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เต็มอิ่มกับอาหารแสนอร่อย และบริการยอดเยี่ยม ในราคาสบายกระเป๋า คงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก…“Dusit D2 อ่าวนาง กระบี่” ที่จะมาเติมเต็มวันหยุดพักผ่อนของเราให้สมบูรณ์คุ้มค่า
ครั้งนี้ เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวแนวธรรมชาติ ดื่มด่ำกับวิถีชุมชนกันที่ เกาะกลาง ซึ่งตั้งอยู่กลางแม่น้ำกระบี่ สามารถเดินทางจากตัวเมืองกระบี่โดยนั่งเรือหัวโทงที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากลานปูดำมากนัก โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที เรือหัวโทงนี้เป็นเรือประมงพื้นบ้านที่มักใช้กันแถบทะเลอันดามัน เป็นเรือขนาดเล็กที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง จำพวกไม้ตะเคียนหรือไม้ยอม โดดเด่นด้วยหัวโทงหรือหัวเรือที่สูงงอนขึ้น ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวเล เพื่อช่วยในการทรงตัวของเรือให้สามารถฝ่าคลื่นลมไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย
ก่อนเริ่มเที่ยวที่เกาะกลาง เราขอเติมพลังกันที่ร้านอาหาร บ้านมะหญิง ซึ่งเป็นร้านอาหารร้านแรกของเกาะกลาง นอกจากอาหารรสจัดจ้านในราคาสบายกระเป๋าแล้ว ที่หน้าร้านยังมีกระชังปลาซึ่งมีปลานานาชนิดไว้ให้เราได้ศึกษา อาทิ ปลาเสือพ่นน้ำ ปลากะพงหิน ฯลฯ รวมถึงปลาปักเป้าซึ่งนับเป็นพระเอกของที่นี่ อาหารแนะนำของที่นี่ ได้แก่ กุ้งลายเสือซอสมะขาม / ปลากะพงทอดน้ำปลา / ปูดำผัดออริกาโน่ และปลาหมึกดำไข่ผัดตะไคร้ ทานคู่กับ ข้าวสังข์หยด ซึ่งเป็นข้าวขึ้นชื่อของที่นี่ อาหารแต่ละจานสดมากๆ รสชาติที่ปรุงคอนเฟิร์มว่าสุดจริง จนอยากให้มะมาเปิดร้านอาหารที่ กทม. เลยสิ
เมื่ออิ่มท้องแล้ว เราจะพาไปเที่ยวชุมชนแห่งนี้กันต่อ ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเกาะกลาง เป็นแหล่งชุมชนมุสลิมที่เงียบสงบ อบอวลไปด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่ยังคงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นไว้ได้เป็นอย่างดี รอบเกาะรายล้อมไปด้วยป่าชายเลนและปากแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ เสมือนเราได้เข้ามาอยู่ในดินแดนที่มีแต่ธรรมชาติ ท่ามกลางชาวบ้านที่เป็นมิตร และอยู่กันอย่างอบอุ่น ด้วยวิถีชีวิตที่สืบต่อกันมาแบบรุ่นต่อรุ่นมายาวนานกว่า 50 ปี การมาเที่ยวเกาะกลางสามารถเที่ยวได้ทั้งแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือพักค้างคืนกันที่โฮมสเตย์ริมทะเลหรือที่รีสอร์ทบนเกาะ
ที่เกาะกลางนี้ เราสามารถเที่ยวชมบรรยากาศและวิถีชีวิตชาวบ้านรอบๆ เกาะ ซึ่งมีหลายกลุ่มอาชีพ ตั้งแต่ การทำเรือหัวโทงจำลอง การทำผ้าปาเต๊ะ การทำนาข้าว การทำผ้าบาติก การเลี้ยงผึ้งโพรง การทำประมงโป๊ะน้ำตื้น ไปจนถึงการสักหอย
เราสามารถเที่ยวรอบเกาะโดยการปั่นจักรยาน ขี่มอเตอร์ไซด์ ก็ไม่ต้องกลัวหลง เพราะถนนที่นี่มีเพียงสายเดียว หรือจะใช้บริการรถสามล้อพ่วงข้างนำเที่ยวแบบเราสองคน ก็จะมีไกด์ท้องถิ่น (คนขับ) คอยอธิบายสถานที่ต่างๆ ให้ฟังกันเพลินๆ ด้วย
หลังจากเที่ยวเกาะกลางกันอย่างเต็มอิ่ม เรากลับเข้าฝั่ง เพื่อเดินทางไปยังอ่าวนางกันต่อ อ่าวนาง เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่ เพราะเป็นจุดต่อเรือของ One day trip ที่ไปยังเกาะและหาดต่างๆ อาทิ เกาะไก่ เกาะปอดะ เกาะทับ ทะเลแหวก เกาะห้อง เกาะพีพี อ่าวมาหยา หาดไร่เลย์ หาดถ้ำพระนาง หาดนพรัตน์ ฯลฯ ทำให้บริเวณนี้มีนักท่องเที่ยวนิยมมาพักเป็นจำนวนมาก ตัวหาดมีพื้นที่ชายหาดยาว 2 กิโลเมตร สุดหาดทางด้านซ้ายเป็นภูเขาหินปูนกั้น หาดอ่าวนาง กับ หาดไร่เลย์ สุดหาดทางด้านขวาเป็นปากน้ำกั้น หาดอ่าวนาง กับ หาดนพรัตน์ธารา
ใครที่มาเที่ยวอ่าวนาง และมองหาที่พักทำเลดี บริการเด่น ราคาไม่แรง ต้องที่นี่เลย โรงแรม DUSIT D2 อ่าวนาง กระบี่ เพราะที่นี่ทำเลดีมากๆ อยู่ใกล้ชายหาดระยะที่เดินถึงได้ ไม่ไกลจากร้านค้า ร้านอาหารและบาร์ในย่านใจกลางเมือง ห้องพักทันสมัย สะดวกสบาย Concept ของที่นี่ คือ Room with a View จึงมั่นใจได้ว่าเราจะสามารถเห็นวิวสวยๆ จากห้องพักได้อย่างแน่นอน
เมื่อเข้ามาเจอ Lobby ก็ต้องสะดุดตากับป้ายไฟ D2 ขนาดใหญ่ และภาพที่อยู่บนกำแพง ซึ่งเป็นรูปถ้ำ ในช่วงพลบค่ำ บริเวณนี้จะสวยงามอย่างบอกไม่ถูก มีการนำสัญลักษณ์ของความเป็นไทยอย่างรถตุ๊ก ตุ๊ก มาตกแต่ง ระหว่างที่นั่งรอห้อง ก็สามารถชาร์จมือถือได้กับที่ชาร์จ DIY ที่ทางโรงแรมประดิษฐ์เอง เก๋จริงๆ เลย ^^
ห้องพักที่นี่มีมากถึง 173 ห้อง โดยมีให้เลือก 5 Room Types ดังนี้
D’Light Room แม้จะเป็น Type เริ่มต้น แต่มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 29 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ยิ่งตอนนี้ทางโรงแรมมี 2 โปรพิเศษ…TRAVEL TOGETHER เราเที่ยวด้วยกัน กับ Dusit D2 อ่าวนาง กระบี่
? 1. ห้องพักเริ่มต้น 999 บาท ชำระเพียง 599 บาท/ห้อง/คืน ไม่รวมอาหารเช้า
? 2. สุขใจกับแพ็คเกจสุดคุ้ม ห้องพักแบบดีไลท์ ราคา 2,000บาท ชำระเพียง 1,200 บาท/ห้อง/คืน พร้อมอาหารเช้า รับทันที !!! เครดิตเงินสด 600 บาท/ห้อง/คืน สำหรับใช้ที่ห้องอาหารระฆังไทย
#จองได้ตั้งแต่ : วันนี้ – 31 ต.ค. 63
#วันเข้าพัก : 18 ก.ค. – 31 ต.ค. 63
? จองผ่านเว็บไซต์: https://bit.ly/3ewoJGw
? อีเมล: d2akrsvn@dusit.com
จัดราคาโปรโมชั่น หั่นราคาเหลือเพียง 599 บาท/คืน แบบนี้ช่างน่ามาเที่ยวจริงๆ
D’Light Room with Seaview ห้องเหมือน D’Light Room ต่างกันเพียงจะเห็นวิวทะเล
D’Luxe Room with Pool View ขนาดห้อง 36-40 ตารางเมตร อยู่ที่ตึกด้านใน จะได้วิวสระว่ายน้ำ พร้อมด้วยภูเขาหินปูนขนาดใหญ่เป็นฉากหลัง
Family Suite ขนาด 50 ตารางเมตร มี Bunk Bed เหมาะสำหรับครอบครัวที่มากันหลายคน
D’Suite ซึ่งเป็นห้องที่เราพักในครั้งนี้ มีพื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร เปิดเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาขนาดใหญ่ มองเห็นวิวทะเลและภูเขาได้อย่างชัดเจน ตรงกลางเป็น Walk-In Closet ที่มอบพื้นที่ในการแต่งตัวให้เราแบบเต็มๆ
ด้านในเป็นห้องนอน พร้อมด้วยเตียงนอนขนาดใหญ่ นุ้มนุ่ม ทำให้ได้หลับสนิทผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี
ด้านนอกมีระเบียง สามารถออกไปนั่งจิบกาแฟชมวิวสระว่ายน้ำ ภูเขา ทะเล ได้อย่างเพลิดเพลิน ตาม Concept ของโรงแรม Room with a View
ส่วนด้านหลังจะเป็นห้องน้ำที่แยกโซนแห้งและเปียกไว้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยอ่างแช่ตัวขนาดใหญ่ ที่มีแท่นวางหนังสือ หรือ ipad ให้ได้แช่น้ำ จิบไวน์ ดูรายการโปรด ได้อย่างลงตัว
สระว่ายน้ำ ที่นี่หาได้ไม่อยาก เพราะอยู่ตรงกลางของโรงแรม เป็นสระน้ำเกลือขนาดใหญ่ มีทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ บริเวณรอบสระมี Day Bed ให้นอนเล่น มองวิวของภูเขาสูงที่เรียงตัวสลับกันอย่างสวยงาม สอดรับกับต้นไม้สีเขียวนานาชนิดที่รายล้อมรอบพื้นที่ของโรงแรม ให้ความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี
หากอยากผ่อนคลาย ปลดปล่อยความเมื่อยล้า ลองมาใช้บริการ เจ้านางสปา ที่มีบริการนวดครบวงจร ภายในตกแต่งสไตล์ล้านนา สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างดี
สายสุขภาพก็สามารถออกกำลังกายได้ที่ D’FIT เป็นฟิตเนสที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. เพียงใช้ Key Card ก็สามารถเข้าใช้งานได้ทันที
ส่วนน้องๆ หนูๆ ก็คงจะเพลิดเพลินกันอย่างสุดเหวี่ยงที่ D’Kids Club and Playground ที่มีทั้งแบบ indoor และ outdoor ให้เล่นกันจนลืมเวลาไปเลย
สำหรับสายถ่ายภาพแฟนสเคป ที่นี่มีมุมให้ถ่ายรูปกับแบ็คกราวด์สีสวยๆ ลองหาดูนะครับว่าอยู่ตรงไหนของโรงแรมบ้าง ไม่ขอสปอย
ในส่วนของห้องอาหารที่นี่โดดเด่นไม่แพ้ตัวโรงแรม มีชื่อว่า ระฆังไทย เป็นห้องอาหารที่ดึงดูดทั้งแขกที่เข้าพักในโรงแรมและบุคคลทั่วไปที่เดินผ่านไปมาได้เป็นอย่างดี ด้วยสไตล์การตกแต่งที่โดดเด่นและการใส่ใจในทุกรายละเอียดของการตกแต่งที่แจ่มไม่แพ้รสชาติของอาหารเลย โดยจะให้บริการแบบ All Day Dining ระหว่างเวลา 6.30 – 23.30 น.
สำหรับอาหารเช้า เปิดให้บริการเวลา 7.00 – 11.00 น. เป็นแบบ International Buffet มีทั้งสลัด ชีส Cold Cut ไส้กรอก แพนเค้ก เมนูไข่ต่างๆ เบเกอรี่ ซีเรียล ข้าวผัด ผัดซีอิ๊ว ข้าวต้ม เห็ด น้ำผลไม้ ชา กาแฟ โยเกิร์ต และผลไม้ตามฤดูกาล แต่หากวันไหนที่แขกเข้าพักไม่เยอะ ทางโรงแรมจะจัดเป็นแบบ A La Carte ให้ (เมนูอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน)
ส่วนมื้ออื่น อาหารที่เราได้ลองลิ้มชิมรส มีทั้งอาหารไทย และอาหารตะวันตก ซึ่งอยากแนะนำให้มาลองทั้ง 2 แบบ โดยเมนูที่เราขอแนะนำ ได้แก่ Seafood Platter ที่เสิร์ฟซีฟู้ดแบบสดๆ พร้อมด้วย Garlic Butter และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน / ส้มตำไทย ที่เสิร์ฟมาในชิงช้า น่ารัก แหวกแนวมากๆ / ทอดมันกุ้ง รสกลมกล่อม / ต้มยำกุ้งรสนัว / ปีกไก่ระฆังไทย
Hokkaido Scallop กับซอสบีทรูท หอยเซลล์เนื้อหวาน กับซอสบีทรูทเข้มข้น / Pepperoni Pizza เนื้อแป้งบาง ทำให้ทานเพลิน ไม่เลี่ยน / Penne Arabiata
และตบท้ายด้วยเมนูของหวานแสนเก๋อย่าง Brownie ที่เราต้องราดนมร้อน เพื่อทลายโดมช็อคโกแลตที่ครอบบราวนี่ไว้อย่างทะนุถนอม
โรงแรมทำเลเยี่ยม ห้องพักวิวดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบ อาหารชั้นเลิศ แบบนี้ อย่าเพิ่งคิดว่าห้องพักจะต้องแพง เพราะตอนนี้ทางโรงแรมได้ออกโปรโมชั่น เพื่อต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวของชาวไทยอีกครั้ง กับ…TRAVEL TOGETHER เราเที่ยวด้วยกัน กับ Dusit D2 อ่าวนาง กระบี่ พร้อม 2 โปรพิเศษ
? 1. ห้องพักเริ่มต้น 999 บาท ชำระเพียง 599 บาท/ห้อง/คืน ไม่รวมอาหารเช้า
? 2. สุขใจกับแพ็คเกจสุดคุ้ม ห้องพักแบบดีไลท์ ราคา 2,000บาท ชำระเพียง 1,200 บาท/ห้อง/คืน พร้อมอาหารเช้า รับทันที !!! เครดิตเงินสด 600 บาท/ห้อง/คืน สำหรับใช้ที่ห้องอาหารระฆังไทย
#จองได้ตั้งแต่ : วันนี้ – 31 ต.ค. 63
#วันเข้าพัก : 18 ก.ค. – 31 ต.ค. 63
เพียง 3 ขั้นตอนเพื่อความรวดเร็วในการยืนยันสิทธิ์
1.) จองห้องพักในชื่อผู้ลงทะเบียน พร้อมแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน 4 หลักสุดท้าย และหมายเลขโทรศัพท์ ในช่องความคิดเห็น (comment) *เพื่อใช้ในการตรวจสอบและช่วยดำเนินการยืนยันสิทธิ์ของท่าน
2.) ตรวจสอบรายการจองบนแอป “เป๋าตัง” และดำเนินการชำระเงิน 60%
3.) แสดง QR code บนแอป “เป๋าตัง” ตอนเช็คอิน
? จองผ่านเว็บไซต์: https://bit.ly/3ewoJGw
? อีเมล: d2akrsvn@dusit.com
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร: 075-637-635
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^