ตอนนี้คนไทยค่อนประเทศคงกำลังคิดถึงอากาศเย็นๆ เมืองน่ารักๆ ของกินอร่อยๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นกันเป็นแน่ แต่รอแล้วรอเล่า เจ้าวัคซีนก็ยังมาไม่ถึงซักที กว่าจะได้ไปแช่ออนเซ็น ชมซากุระ จิบชาเขียวเข้มข้นๆ คงต่อเหี่ยวเฉาก่อน ใครกำลังจะลงแดง มามุงทางนี้ เพราะวันนี้เรามีตัวเลือกใหม่ที่บรรยากาศใกล้เคียงกับประเทศญี่ปุ่นสุดๆ แต่อยู่ไม่ไกล เดินทางง่าย มานำเสนอ นั่นก็คือที่จังหวัดเชียงใหม่นี่เอง โดยเราจะลิสท์ที่เที่ยวไฮไลท์เด็ดๆ “5 ที่เที่ยวเชียงใหม่ เหมือนไปญี่ปุ่น” ไว้ถ่ายรูปอัพโซเชียล ให้เพื่อนๆอิจฉา ไม่ต้องแต่งภาพเยอะ แต่บรรยากาศโดยรวมของสถานที่มันใช่ก็พอ
ใครที่เป็นขาประจำในการจัดทริปจะรู้ดีว่าการเดินทางแต่ละครั้งมีเรื่องจุกจิกมากมาย ทั้งเรื่องตั๋วเครื่องบิน รถเช่า ที่พัก ร้านอาหาร ฯลฯ ซึ่งกว่าจะเลือกแต่ละอย่าง กว่าจะเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เจ้า จนจองได้ครบ ต้องใช้เวลาพอสมควร วันนี้เราเลยมีผู้ช่วยมานำเสนอ นั่นก็คือ Traveloka เว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถเช่า ราคาถูก พร้อมโค้ดส่วนลดเพียบ สำหรับตั๋วเครื่องบิน Traveloka เขาจะเปรียบเทียบราคาของแต่ละสายการบินมาให้เรียบร้อย ให้เราเปรียบเทียบได้ในคลิกเดียว แถมราคาก็พิเศษกว่าด้วย ยิ่งเรื่องรถเช่าด้วยแล้ว รับรองว่าจองผ่าน Traveloka ได้ราคาดีกว่าเห็นๆ ใครอยากประหยัด ตามไปที่ลิงค์ได้เลย
จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ กับ Traveloka -> https://bit.ly/2K7KinD
จองรถเช่าเชียงใหม่ กับ Traveloka -> https://bit.ly/3gSukK2
1. แช่ออนเซ็น ฟีลญี่ปุ่น แบบไม่โป๊ Onsen @ Moncham
แน่นอนว่าหากนึกถึงญี่ปุ่น คงหนีไม่พ้นการแช่ออนเซ็น ให้ร่างกายได้สัมผัสความอุ่น คลายหนาว แถมยังช่วยให้เลือดหมุนเวียน สบายตัว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่น ก็มีออนเซ็นดีๆ ให้เราได้สัมผัสกันแล้วที่ Onsen @ Moncham ที่สามารถเข้าไปใช้บริการออนเซ็นได้ แม้จะไม่ได้เข้าพักที่โรงแรม โดยจะเปิดให้บริการเวลา 11:00 – 16:00 น. ในราคาคนละ 750 บาท ซึ่งออนเซ็นของที่นี่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ที่ญี่ปุ่น แยกโซนชาย-หญิง มีทั้งหมด 4 บ่อ เป็นบ่อน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 40, 39 และ 38 องศา มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ส่วนบ่อน้ำเย็นจะเป็นถังไม้ อุณหภูมิจะอยู่ที่ 18 องศา แช่น้ำร้อนให้ร่างกายผ่อนคลายและตบด้วยน้ำเย็น รับรองหลับสบายสุดๆ สำหรับใครที่กลัวว่าจะต้องถอดหมด สบายใจได้ เพราะที่นี่เค้ามีกางเกงชั้นใน และเสื้อเกาะอกไว้ให้บริการ ไม่ต้องแช่แบบโป๊ให้เขินกัน ส่วนเรื่องของคุณภาพรับรองว่าได้มาตรฐานเพราะเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์จากใต้พื้นดินลึกกว่า 100 เมตร (ใช้ตาน้ำเดียวกับน้ำแร่ออร่า) ซึ่งมีส่วนผสมของทองแดง แมกนีเซียม สังกะสี แคลเซียม และซัลเฟตไอออน ที่ผ่านกรรมวิธีธรรมชาติตามแบบฉบับญี่ปุ่น
* ทั้งนี้ ทางโรงแรมไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายในออนเซ็น
แต่เราได้ขออนุญาตทางโรงแรมเป็นกรณีพิเศษ *
พิกัด : https://g.page/OnsenAtMoncham?share
สำหรับใครที่อยากลองพักแบบเรียวกัง หรือรับประทานอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ที่นี่ก็มีให้บริการ แต่ขอเตือนก่อนว่าห้องพักที่นี่มีไม่เยอะมาก และคิวค่อนข้างแน่น ถ้าอยากไปพัก คงต้องรีบจองล่วงหน้า
2. ท้าอากาศหนาว ชมทุ่งดอกไม้หลากสี ฟีลฮอกไกโด
อากาศเย็นแบบนี้ ช่างเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงาม พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเหมือนกำลังสะบัดกระโปรงอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด ใครที่กังวลว่าไปถึงแล้วจะต้องเบียดเสียดแย่งกันถ่ายรูปกับคนจำนวนมาก สบายใจได้ เพราะสวนดอกไม้ที่เชียงใหม่มีให้เลือกเพียบ ตลอดทางที่ขับรถจะเจอกับป้ายบอกทางเต็มไปหมด ถูกใจชื่อสวนไหนก็เลี้ยวรถเข้าไปได้เลย โดยที่ที่เราไปคือ สุรชัยฟาร์ม 2 ซึ่งเป็นทุ่งดอกมากาเร็ตหลากสี โดยเขาจะคุมดอกไม้ในแต่ละแปลงให้มีสีเดียวกัน และสลับสีกันไปในแต่ละแปลง จึงได้แปลงดอกไม้ที่เป็นสีรุ้ง ทางฟาร์มมีพร็อพสำหรับถ่ายรูปไว้ให้เลือกมากมาย ค่าเข้าชมคนละ 50 บาท สามารถรับเครื่องดื่มและขนมได้ฟรี เปิดให้บริการเวลา 07:00-18:00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/9fQNGHidiqd8pFoh7
ส่วนฟาร์มยอดฮิตอย่าง I Love Flower Farm ก็ยังเป็นอีกจุดหมายที่น่าสนใจ ด้วยพื้นที่กว่า 8 ไร่ (ดอกไม้จะบานครั้งละ 4 ไร่) ทำให้ได้วิวดอกไม้สุดลูกหูลูกตา แต่ที่นี่จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวัน และต้องทำการจองล่วงหน้าก่อนที่ -> https://bit.ly/33YhS70 ค่าเข้าคนละ 70 บาท มีขนมและน้ำให้คนละ 1 ชุด ทั้งนี้จะมีค่ารถพ่วงของชุมชนที่เข้ามาส่งในสวนอีก 20 บาท
3. จิบชาเขียว ชมสวนสไตล์ญี่ปุ่น ที่ Magokoro Teahouse – มีใจให้มัทฉะ
หากนึกถึงเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่น คงหนีไม่พ้นชาเขียวรสเข้มข้นที่ใช้ใบชาเขียวทั้งใบบดเป็นผง โดยไม่มีการคัดแยกกากออก หรือที่เรียกกันว่ามัทฉะ ซึ่งมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ซึ่งเราขอแนะนำคาเฟ่เก๋ๆ ที่ตกแต่งได้เหมือนที่ญี่ปุ่น มีชื่อว่า Magokoro Teahouse – มีใจให้มัทฉะ ตั้งอยู่กลางตัวเมืองเชียงใหม่ ข้างๆ วัดศรีดอนไชย มีทั้งโซนที่นั่งด้านในเหมือนบ้านญี่ปุ่น และโซนสวนสไตล์ญี่ปุ่น
เมนูมีให้เลือกมากมายทั้งเครื่องดื่มอย่าง Matcha, Hojicha, Gyokuro และ Sencha ซึ่งที่นี่ใช้มัทฉะแท้จากญี่ปุ่น 100% อีกทั้งยังมีขนมให้เลือกอีกเพียบ หน้าตาน่ารักแถมรสชาติอร่อยด้วย ร้านเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10:00-18:00 น.
พิกัด : https://g.page/magokoro-tea?share
4. เช็คอินกับเมืองญี่ปุ่นจำลองที่ Hinoki Land
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดหากอยากได้อารมณ์แบบญี่ปุ่นที่แท้ทรู ก็คือ การถ่ายภาพคู่กับแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ อาทิ ปราสาททอง เสาโทริอิ โคมแดง หมู่บ้านโบราณ สวนแบบเซ็น และปราสาทฮิโนกิ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถหาได้ที่ Hinoki Land อยู่อำเภอไชยปราการ ด้วยพื้นที่ 83 ไร่ ทำให้เราได้เพลิดเพลินกับจุดต่างๆ รวมทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านของฝาก ครบครัน เปิดทำการทุกวัน ระหว่างเวลา 08:00-18:00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก 50 บาท (เด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. เข้าชมฟรี)
พิกัด : https://goo.gl/maps/emWyWo4NpyC2GKz17
ที่นี่มีชุดกิโมโน และชุดยูกาตะให้เช่า ในราคา 350 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ 100 บาท สำหรับเด็ก ซึ่งราคานี้รวมเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ดาบซามูไร และพร็อพต่างๆ สำหรับถ่ายรูป สามารถเดินถ่ายรูปตามจุดต่างๆ อาทิ สวนดอกคัตเตอร์สีขาว ปราสาทฮิโนกิ 4 ชั้น ที่สร้างขึ้นจากไม้สนฮิโนกิ อุโมงค์เสาโทริอิของศาลเจ้าจิ้งจอก ซุ้มประตูโคมแดงขนาดใหญ่ที่จำลองมาจากซุ้มประตูคามินาริมงหรือฟุไรจินจากวัดอาซากุสะ ฯลฯ ได้ตลอดทั้งวัน
5. สัมผัสฟาร์มสเตย์สไตล์ญี่ปุ่นท่ามกลางขุนเขา ที่ Mori Natural Farm
จะให้ได้ฟีลญี่ปุ่นแบบสุดๆ คงต้องหาโอกาสไปสัมผัสฟาร์มสเตย์กลางหุบเขาสไตล์ชานเมืองของญี่ปุ่น ซึ่งคงเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากที่ Mori Natural Farm ที่กำลังเป็นกระแสนิยมใน Social Media อยู่ในขณะนี้ ที่นี่นอกจากจะมีห้องพักที่สุดจะเก๋ไก๋แล้ว ยังมีคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งให้บริการทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม แม้จะไม่ได้เข้าพัก ก็สามารถไปนั่งจิบชาเขียว สัมผัสวิวทิวทัศน์แบบญี่ปุ่นชนบท ให้หัวใจได้ชุ่มฉ่ำไปกับความสวยงามตามธรรมชาติ พร้อมด้วยพนักงานต้อนรับแสนน่ารักอย่างเจ้าโบชิคุงและมิกิจัง เมนูที่เราอยากแนะนำ ได้แก่ ข้าวทงคัตสึ เบเกอรี่ญี่ปุ่นสไตล์ Homemade ขนมมัชฉะ เซนไซที่มีให้เลือก 4 ไส้ และเครื่องดื่มรสชาติต้นตำรับที่ใช้วัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่น เปิดทุกวัน 09.00 – 17.30 น.
พิกัด : https://g.page/Morinaturalfarm?share
ครบเครื่องแบบนี้ คงช่วยบรรเทาอาการโหยหาญี่ปุ่นไปได้บ้างไม่มากก็น้อย ไม่น่าเชื่อเลยว่าบ้านเราก็มีครบทุกสิ่ง เหมือนจำลองสิ่งต่างๆ จากประเทศญี่ปุ่นมาไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่เลยทีเดียว ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋า เตรียมพร็อพ ไปโต้ลมหนาวกัน และอย่าลืมเข้าไปจองตั๋วเครื่องบินที่ Traveloka เพื่อประหยัดค่าตั๋วแล้วเอาเงินที่เหลือไปกินไปเที่ยวกันนะ ทางไปจองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ –> https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Chiang-Mai.CNX
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^
