(Bilingual Review)
ไต้หวัน หลายคนอาจจะยังสับสนว่าเป็นมณฑลหนึ่งของประเทศจีน แต่จริงๆ แล้ว ไต้หวันเป็นประเทศที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ และตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน ไต้หวันเป็นประเทศที่ครบเครื่องทั้งเรื่องของธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรมที่อบอวนไปด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของจีนและญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีเส้นทางปั่นจักรยานที่ตัดผ่านเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งได้มาตรฐานความปลอดภัยจนได้ชื่อว่าเป็น “Bicycle Friendly” อันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งด้วยนโยบายฟรีวีซ่าอยู่ ณ ตอนนี้ ทำให้ ไต้หวันกลายเป็นอีกหนึ่ง Destination ที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเรามากขึ้นด้วย เก็บกระเป๋าแล้วไปเพิ่มตราประทับในหน้า Passport กับอีกประเทศที่ควรค่าแก่การไปโดน กับ 2 เมืองเด่น ที่ใช้เวลา 5 วันก็เที่ยวได้แบบชิลๆกันครับ “ไต้หวัน…ในวันที่ฉันค้นพบความชิลที่ ไทเป-เกาสง”
Taiwan, many people may still confuse that is it a part of China or not. Actually Taiwan is another country located in southeastern direction of China. Taiwan is full with wonderful nature, art, and culture that integrated the uniqueness of China and Japan. Cycling routes across many cities that meet safety standards make Taiwan known as one of the top “Bicycle Friendly” countries in the world. Free-visa policy also makes Taiwan as an interesting destination for Thai tourists. If you are ready, let pack the baggage and add more stamp into our passport page at a country that worth to go like Taiwan. We recommend you to take 5 days to chill out at two wonderful cities. “Taiwan…in the day I discovered the chill out @ Taipei – Kaohsiung”
การเดินทางไป ไต้หวัน เดี๋ยวนี้ช่างแสนง่าย มีสายการบินให้เลือกมากมาย แต่สำหรับเราแล้วการบินไทยก็ยังคงเป็นสายการบินอันดับหนึ่งที่เรานึกถึงเพราะการบริการที่เยี่ยมยอด
Nowadays getting to Taiwan is very easy because there are direct flights from many airlines. For us, THAI AIRWAYS is still number one in our mind due to their excellent service.
อีกทั้งตอนนี้ยังให้บริการด้วยเครื่อง Boeing 787 ลำใหม่สดซิง ให้ความรู้สึกสบายต่างกัน ทั้งด้วยเบาะที่นั่งที่กว้างขวาง สามารถเหยียดขาได้สุด ให้ความรู้สึกสบาย ไม่เมื่อย หน้าต่างเป็นแบบใหม่ที่สามารถปรับความเข้มของแสงได้ถึง 5 ระดับ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนหน้าต่างที่ต้องเลื่อนบานเปิดกระจกแบบเดิม หนังและเกมส์ก็ใหม่ๆ ทั้งนั้น มีให้เลือกดูเลือกฟังมากมาย
Now Thai Airways serves with the new Boeing 787 which is the newest airplane. We feel very comfort due to the spacious seat that we can stretch our legs. The windows can be adjusted the intensity of light up to 5 levels, so we do not feel uncomfortable like the traditional one that we have to slide up and down. We can enjoy with various new movies and games along the flight.
เมนูอาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องรับรองว่าถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน มีครบทั้งข้าว ขนมปัง ของหวาน ผลไม้ และเครื่องดื่มนานาชนิด ไม่รู้ว่าผมเจอกัปตันฝีมือดี หรือเพราะเครื่องใหม่นี้กันแน่ที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความนิ่มนวลทั้งตอนเครื่องขึ้นและลง หากใครได้ลองเครื่องรุ่นใหม่นี้ อย่าลืมมาแชร์ให้ฟังกันบ้างนะครับ ^^
The food onboard is very delicious and we sure that Thai people will love it. They serve rice, bread, dessert, fruit, and drink. I am not sure that I met skilled captain or because the airplane is very new that made me feel very smooth when airplane took off and landing. If anyone has tried this new airplane, do not forget to share with us. ^^
เวลา 3 ชั่วโมงครึ่งช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีก็มาถึงสนามบินนานาชาติเถาหยวน เมืองไทเป (Taipei) ประเทศไต้หวัน ซะแล้ว ซึ่งเป็นสนามบินที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในแถบ Asia Pacific ดีไซน์สวยงาม แผนผังภายในถูกออกแบบมาอย่างเป็นระเบียบ ไม่หลงทางกันแน่ๆ ระบบตรวจคนเข้าเมืองก็รวดเร็ว ทันสมัย การเดินทางเข้าตัวเมืองไทเปก็แสนสะดวกสบาย มีให้เลือกทั้ง Airport Express, High Speed Rail, บัส หรือ Taxi
Three and a half hours passed very fast. Finally we reached Taoyuan International Airport in Taipei, Taiwan. It is recognized as the best airport in Asia Pacific with its beautiful design and well-organized interior layout. We can ensure that we will not get lost easily. The immigration system is fast and modern. Getting to Taipei City is very convenient. We can select to go by Airport Express, High Speed Rail, Bus, or Taxi.
ที่แรกที่เราจะไปกันเป็นที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของไต้หวัน นั่นก็คือ อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall) ที่สร้างขึ้นในปี 1977-1980 กลาง Liberty Square เพื่อเป็นการรำลึกและเทิดทูนอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชก ประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวัน โดยตัวอาคารสีน้ำเงินขาว สูง 76 เมตร หลังคาแปดเหลี่ยม สร้างเลียนแบบมาจากหอฟ้าเทียนถานในปักกิ่ง บันไดหินอ่อนด้านนอก 84 ขั้น และด้านใน 5 ขั้น รวมทั้งหมด 89 ขั้นนั้นเท่ากับอายุของท่านเจียงไคเชกพอดี โถงหลักชั้นบนมีรูปปั้นสำริดของท่านเจียงไคเชกอยู่ ส่วนชั้นล่างมีห้องทำงานจำลอง ภาพถ่ายเหตุการณ์สำคัญ รถประจำตำแหน่ง และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของท่าน อาคารจีนสีแดงที่อยู่ด้านข้าง คือ National Concert Hall และ National Theater เป็นสถานที่ที่ชาวไต้หวันนิยมมาเดินเล่น พักผ่อน ออกกำลังกาย และจัดกิจกรรมต่างๆ ไฮไลท์สำคัญคือ พิธีเปลี่ยนเวรทหาร ซึ่งจะมีทุกๆต้นชั่วโมง เวลา 10:00-16:00 น. ของทุกวัน
The first place we will go is a top tourist attraction in Taiwan that is Chiang Kai-Shek Memorial Hall. It was built in 1977-1980 in the center of Liberty Square in order to commemorate and honor the first president of Taiwan that is Chiang Kai-shek. Chiang Kai-Shek Memorial Hall is 76 meters high painted in blue and white color. Its octagonal roof is imitated from Temple of Heaven in Beijing. The number of marble steps outside is 84 and the number of marble steps inside is 5. The total number of the steps that is 89 is equal to the age of Chiang Kai-shek. The bronze statue of Chiang Kai-shek is located on the upper of the main hall. On the ground floor, there are simulated his working room, photos of significant events, his company car, and his personal belongings. The red Chinese buildings aside of the hall are National Concert Hall and National Theater. Here is a very popular place that a lot of Taiwanese usually come to relax, exercise, and do many activities. The highlight is when the military changes their working shifts that happen every hour during 10 a.m. – 4 p.m. every day.
อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก เปิดให้เข้าชมทุกวัน 09:00-18:00 น. อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน MRT สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall สาย 2 สีแดงและสาย 3 สีเขียว ออกที่ทางออก Exit 5
Chiang Kai-shek Memorial Hall opens daily from 9 a.m. – 6 p.m. It is near Chiang Kai-Shek Memorial Hall MRT station (Line no.2 for Red Line and Line no.3 for Green Line). Have to get off at exit 5.
มาต่อกันที่ Landmark ของเมืองไทเปอย่าง Taipei 101 ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในไต้หวัน สูงถึง 508 เมตร ตึกไทเป 101 มีทั้งหมด 101 ชั้นตามชื่อ และชั้นใต้ดินอีก 5 ชั้น ใช้เทคโนโลยีการลดความร้อนจากภายนอก โครงสร้างภายนอกถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นต่อเหตุแผ่นดินไหว ผสานกับความเชื่อด้านฮวงจุ้ย จึงได้มาเป็นอาคารรูปทรงเจดีย์จีนและทำเป็นปล้องไม้ไผ่จำนวน 8 ปล้อง
Next destination is Taipei’s Landmark that is Taipei 101 which is 508 meters tall. There are 101 floors and 5 underground floors. It was designed by using dissipation technology in order to reduce heat from outside. The external structure is designed to be resilient to earthquakes and also combined with the Feng Shui beliefs. That leads to a design of Chinese pagoda with 8 segments of bamboo.
ที่ชั้น B1-5F จะเป็นส่วนของห้างสรรพสินค้าที่ขายของแบรนด์เนม ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ โดยที่ชั้น B1 กับ 5F จะมีเคาน์เตอร์ขายตั๋วสำหรับขึ้นลิฟท์ไปยังจุดชมวิวที่ชั้น 89 ลิฟท์ที่นี่ได้รับการบันทึกใน Guinness Book World Records ว่าเร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็ว 1,010 เมตรต่อนาที ใช้เวลาเพียง 37 วินาทีก็ขึ้นมาถึงชั้น 89 ซึ่งเป็นจุดชมวิวในร่ม
On B1-5F floors, there are a lot of brand name shops and restaurants. On B1 and 5F floors, you can buy ticket to enter indoor observatory which located on 89th floor. The elevators here are recorded in Guinness Book World Records as the fastest elevator in the world. Its speed is 1,010 meters per minute. It takes only 37 seconds going up to the 89th floor that is the viewpoint.
เราสามารถเดินขึ้นบันไดไปที่ลานชมวิวกลางแจ้งที่ชั้น 91 หรือเดินลงที่ชั้น 88 เพื่อไปดูลูกตุ้มยักษ์ Wind Damper ที่ช่วยเรื่องการทรงตัวของตึกเมื่อรับมือกับแผ่นดินไหวและลมพายุ Taipei 101 เปิดบริการทุกวัน 09:00-22:00 น. อยู่เชื่อมกับสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Taipei 101/World Trade Center Station สายสีแดง ทางออก Exit 4 ค่าตั๋ว 600 NTD
We can walk up the stairs to the outdoor observatory on the 91st floor or walk down to the 88th floor to see the giant damper that has a diameter of 5.5 meters, weighs 660 tons, which helps stabilize buildings when dealing with earthquakes and storms. Taipei 101 is open daily from 9 a.m. 10 p.m., connecting to MRT Taipei 101 / World Trade Center station (Red Line) at Exit 4. The admission fee is 600 NTD per person.
จากนั้นไปต่อกันที่ วัดหลงซาน (Longshan Temple) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 300 ร้อยปีแล้ว สร้างขึ้นโดยคนจีนชาวฝูเจี๊ยนในช่วงปี 1738 แต่เดิมสร้างขึ้นเพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิมเป็นหลัก แต่ก็จะมีเทพเจ้าองค์อื่นๆตามความเชื่อของชาวจีนอีกมากกว่า 100 องค์ที่ด้านในโดยมาจากทั้งศาสนาพุทธ เต๋า และขงจื๋อ เป็นวัดที่คนไต้หวันนับถือเป็นจำนวนมาก และนิยมมาขอพรเรื่องการงาน การเรียน และความรัก ในช่วงเทศกาลจะมีการประดับประดาด้วยโคมไฟอย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีการแสดง แสงสี น้ำพุ พร้อมด้วยถนนคนเดิน จึงมีผู้คนมาจากทั่วทุกสารทิศมาอยู่รวมกัน
Next attraction is Longshan Temple which is a monastery nearly 300 years old. It was built by Chinese people in Fujian in 1738. Originally, it was built to worship Guan Yin. There are more than 100 Chinese gods inside which come from Buddhism, Taoism, and Confucianism. This temple is widely regarded by Taiwanese people that usually come to pray for better work, study, and love. In the festival season, the temple is decorated with beautiful lamps and also has a light show and fountain decoration. There is Pedestrian Street nearby. These attract tourists from around to world.
วัดหลงซาน อยู่ติดกับ MRT สถานี Longshan Temple สายสีน้ำเงิน ออกประตู 1
Longshan Temple is adjacent to the MRT Longshan Temple station (Blue Line) at Exit 1.
อีกหนึ่ง Check List ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาไต้หวันก็คือการเดินชิลเพื่อชิม Street Food ซึ่งมีมากมายกระจายอยู่ทั่วเมือง โดยที่เด็ดสุดๆ เห็นจะเป็นที่ Ximending และ Shilin
Another do-not-missed checklist when you come to Taiwan is to hang out and have Street Food. There are many pedestrian streets scattered throughout the city. The most popular streets are Ximending and Shilin.
ซึ่งเมนูเด็ดสุดก็คือไส้กรอกหมูป่า เมนูอื่นๆ ก็มีให้เลือกชิมมากมาย กว่าจะเดินครบ อิ่มเพลินเลยครับ
The coolest menu is the boar sausage. There are also various menus that we can choose.
เที่ยวในไทเปกันมาจุใจแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ เกาสง (Kaohsiung) ซึ่งเป็นเมืองท่าที่มีความเจริญเป็นอันดับ 2 รองจากไทเปกัน โดยเราจะนั่ง เกาเถี่ย THSR ไปเที่ยวกัน เกาเถี่ย THSR คือรถไฟความเร็วสูงที่เร็วติด 1 ใน 10 ของโลก เปรียบเสมือนการนั่งชินคันเซ็นแต่ในราคาสบายกระเป๋ากว่ากันเยอะ นับว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย ที่นั่งกว้างขวาง ห้องโดยสารก็เงียบ นั่งมาเพียงชั่วโมงครึ่ง ก็นำเราจากเหนือสุดของประเทศลงมายังใต้สุดของประเทศที่เมืองเกาสงกันแล้ว
After traveling in Taipei for several days, we will move to Kaohsiung that is the second most prosperous port (The most prosperous city is Taipei). We will go there by Taiwan bullet train. This train is one of the fastest high speed trains in the world. It is similar to Shinkansen but at a much cheaper. This journey is very comfort due to its spacious seat and quiet cabin. We take only half an hour from the northernmost point of the country to the southern point in Kaohsiung.
บรรยากาศที่เกาสงผ่อนคลาย สบายๆ กว่าไทเปพอสมควร แต่ยังไว้ซึ่งความอลังการ
The atmosphere in Kaohsiung is more relax than in Taipei but still being splendor.
อาณาจักร E-DA World ซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้า E-DA Outlet Mall, สวนสนุก E-DA Theme Park, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย, โรงพยาบาล, โรงแรม E-DA Skylark Hotel/E-Da Royal Hotel, สนามกอล์ฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมายที่ถูกยกมาตั้งไว้ในพื้นที่เกือบ 600 ไร่ เปรียบได้ว่า E-DA World คือเมืองขนาดย่อมๆ ที่แยกย่อยจากเมืองเกาสง (Kaohsiung City) เลยก็ว่าได้ อาคารต่างๆ ถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก ได้อารมณ์ราวกับเดินอยู่ในยุโรปเลยทีเดียว
E-DA World consists of E-DA Outlet Mall, E-DA Theme Park, School, University, Hospital, E-DA Skylark Hotel, E-Da Royal Hotel, golf course, and other facilities. All of them are located in the same area that is nearly 600 acres. E-DA World seems to be a small city that is a separated from Kaohsiung City. Many buildings are designed in neoclassical architecture style. We feel like we are walking along the street in Europe.
อีก 1 ไฮไลท์ที่สามารถเดินทางแบบ 1-Day Trip ได้ง่ายๆ ก็คือ เกาะฉีจิน (Cijin Island) นั่งเรือข้ามฟากไปเพียง 5 นาทีก็ถึงแล้วบรรยากาศริมหาดโรยด้วยทรายสีเข้ม ช่างเป็นสวรรค์ของคนรักทะเลโดยแท้
Another highlight of this trip is 1-Day Trip at Cijin Island. We take only 5 minutes by ferry to go there. The beach is filled with dark sand. It seems to be a paradise for sea lovers actually.
มีประภาคาร Cihou ที่สามารถไปดูวิวทะเลได้สวยสุดๆ อีกทั้งยังมีป้อมปราการ Cihou (Cihou Fort) ซึ่งป้อมปราการนี้เคยถูกใช้เป็นป้อมคุ้มภัยประจำท่าเรือเกาสงในศตวรรษที่ 19 แต่ภายหลังถูกทำลายตอนทำสงครามกับญี่ปุ่น สร้างด้วยอิฐสีแดง ตามสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกที่ยังคงเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ให้เราได้สัมผัสกัน
There is Cihou lighthouse that we can see the beautiful sea from here. There is also Cihou fort which was used as a fortress at Kaohsiung Harbor in the 19th century. After that it was destroyed during the war with Japan. It was built by red bricks as same as the architecture of the Western style. We can feel the historical atmosphere here.
ต่อกันด้วยจุดชมวิวแห่งใหม่ของเกาสงที่อยู่บนที่สูงอย่าง Siao Gangshan Skywalk Park ทางเดินเป็นทางลาด ทำให้เดินขึ้นไปได้อย่างสะดวกสบาย และง่ายสำหรับใครที่มีรถเข็นเด็กหรือผู้ที่นั่งรถเข็น สะพานสามารถรองรับผู้คนได้มากกว่า 100 คน และบริเวณกระจกใส สามารถไปยืนได้เพียง 4 คนเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ส่วนหัวด้านบนถูกออกแบบคล้ายไวโอลิน มีเส้นสายแผ่ออกมายึดกับทางเดินเรียงตัวโค้งต่อกันอย่างสวยงาม สะท้อนรสนิยมทางดนตรีของชาวไต้หวันได้อย่างลงตัว
Here is the new view point on the high level of Kaohsiung called Siao Gangshan Skywalk Park. It is a slope walkway and we can walk up comfortably and easy for taking stroller and wheelchair. The bridge can accommodate more than 100 people. On the clear glass area, can safely support up to 4 persons at the same time. The top part is designed like a violin and there are lines spread out and bend the curve beautifully. This attraction reflects the taste of music of Taiwanese.
แล้วมาชมความงามของ โดมแห่งแสง (Dome of Light Formosa Boulevard) อยู่ภายในสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Formosa Boulevard Station ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง 2 สายรถไฟสีส้มและสีแดง เป็นงานประติมากรรมกระจกสีกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกจำนวนกว่า 4,500 ชิ้น มีเส้นผ่านศูนย์กลางของโดม 30 เมตร ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวอิตาลี ที่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ด้วยแนวคิดของดิน น้ำ ลม ไฟ โดยใช้สี แดง เหลือง น้ำเงิน เขียวเป็นตัวแทน นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมืองเกาสงที่เดินทางมาได้อย่างง่ายดาย เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 06:00-24:00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม
You can enjoy the beauty of Dome of Light Formosa Boulevard located in MRT Formosa Boulevard station that connects Orange Line and Red Line. It is the largest outdoor sculpture in the world. There are more than 4,500 stained glasses with total 30 meters diameter. It was designed by famous Italian architect who reflects the concept of soil, water, wind, and fire by using red, yellow, blue, and green colors. It is another highlight of Kaohsiung’s city where open daily from 6 a.m. to midnight and free of charge.
เวลาสนุกสนานมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขากลับเราบินจากเกาสงกลับไทย ด้วยสายการบินไทยสมายล์ที่เพิ่งเปิดเส้นทางนี้ได้ไม่ถึงปี สะดวกสบาย เพราะเป็น Full Service เหมือนการบินไทย ที่นั่งกว้างขวาง มีอาหารร้อนเสิร์ฟ ฟินไปอีก
Time flies so fast! We go back from Kaohsiung direct to Thailand by Thai Smile. This is the new route that has been opened less than 1 year. It is very convenient because it is a full service airline like Thai Airways. The seats are Spacious and there are hot food served on the flight.
5 วัน 4 คืนในไต้หวันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกาสงที่ยังคงมีอีกหลายแห่งที่น่าค้นหา หากมีโอกาสเราคงไม่พลาดที่จะกลับมาเยือนอีกเป็นแน่ ยิ่งตอนนี้มีตัวเลือกในการเดินทางมายังไทเปและเกาสงง่ายๆ ใครที่อยากลองมาเที่ยวเมืองท่าที่สวยงาม น่าเที่ยวแห่งนี้ รีบจองตั๋วกันโลดแล้วมา #บันทึกเที่ยวที่ไต้หวัน กันแล้วคุณจะรู้ว่าทำไมใครๆ ก็ชอบไปไต้หวันกันนัก ^^
5 days 4 nights in Taiwan past very fast. There are many places in Kaohsiung we still want to explore more. If we have a chance, we will not miss to come back here again. Currently, there is easy option for traveling to Taipei and Kaohsiung. For persons who want to visit this beautiful city, let book the ticket now. And you will discover why a lot of people love to go to Taiwan.
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^
