ถ้าเอ่ยชื่อเมืองที่มีอาหารอร่อยและสถานที่ถ่ายรูปเก๋ๆ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องนึกถึง…เมืองปีนัง
เมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งด้าน Street Food และ Street Art
มีความเป็นศิลปะอยู่ทั่วเมืองที่ไม่ใช่แค่ในอาหาร
ตึกรามบ้านช่อง วัฒนธรรม รวมไปถึงตามกำแพงตรอกซอกซอยต่างๆ
ล้วนรวมตัวเป็นเอกลักษณ์ของเมืองที่ได้ชื่อว่า… “ปีนัง”
ทริปนี้ผมไปกับบริษัทครับ ผมเป็นตัวแทนของบริษัทที่ได้ไปแข่งขันบาสเก็ตบอล
แข่งแบบวันเดียวจบ 4 นัดตั้งแต่เช้ายันเย็น
ส่วนวันที่เหลือผมหาเวลาไปปั่นจักรยานเที่ยวชมเมือง ถ่ายรูปเก๋ๆ
เสพงานศิลป์ตามกำแพงสวยๆต่อ
รูปด้านล่างเป็นแผนที่ Street Art ที่เหล่านักท่องเที่ยวแต่ละคน
สามารถขอแผนที่นี้ได้จากโรงแรมที่เข้าพัก
ปีนัง ขึ้นชือในเรื่องของ Street Food และ Street Art
ก่อนจะไปปั่นจักรยานชมเมืองชิลๆ ถ่ายรูปเล่นเพลินๆ
ผมจะแนะนำอาหารที่ผมได้ลิ้มรสความเป็น Street Food ผสม Modern หน่อยๆ
เริ่มที่หมี่โกเร็ง เจ้าทีเด็ดผัดอยู่ข้างถนน ร้านนี้ที่พักเป็นคนนำเสนอ ตอนแรกไม่ค่อยเชื่อใจเท่าไร
ร้านเป็นรถเข็น ตั้งอยู่หัวมุมถนนแถวที่พัก แต่พอได้ลองรสชาติแล้วอร่อยเหาะเลยครับ
ไม่น่าเชื่อว่าร้านเล็กๆแห่งนี้มีรสชาติดีทีเด็ดจริงๆ
ถ้าพูดถึงร้านกาแฟที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองก็ต้องร้านนี้ Coffee on the table
จุดเด่นร้านนี้คือกาแฟ 3D Arts มีรูปร่างเป็นแมว หมี สุนัข ตามที่ลูกค้าต้องการ
พอกาแฟมาเสิร์ฟ ผมนี่…แทบไม่กล้าทานเลยครับ มันน่ารักเหลือเกิน
ส่วนรสชาติพอใช้ได้ ถ้าเทียบกับความเก๋ไก๋ถือว่าให้ผ่านครับ
ทางร้านมีทั้งเครื่องดื่มร้อน และเครื่องดื่มเย็นที่สามารถทำเป็นลาย 3D Art เท่ห์ๆได้
หรือจะมาทานอาหารฟิวชั่นก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูอีกด้วย ^^
แต่ถ้าใครอยากลิ้มลอง Street Food แบบ Local จริงๆ
ย่าน China Town ก็มีให้ชิมจนอิ่มท้องอยู่หลายร้าน
ย่านนี้ผู้คนส่วนใหญ่จะพูดภาษาจีนบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง
ได้อารมณ์เหมือนมาเที่ยวเมืองจีนย่อมๆเลยล่ะครับ
ที่ผมลองสั่งมาทานเล่นกันเป็นของทอดฮกเกี้ยน สูตรปีนังที่มีชื่อว่า โลบะ
ลูกค้าเลือกได้จากหน้าร้านได้เลยว่าจะทานอะไร แล้วทางร้านจะทอด
พร้อมกับหั่น รูดไม้ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มเหนียวๆ มาปีนังแล้วต้องมาลองทานให้ได้นะครับ
อาหารเช้าที่ปีนังมีติ่มซำด้วยนะครับ ทั้งของคาว ของหวาน มีหลากหลายเมนูให้เลือก
รวมถึงโจ๊กรสชาติเด็ดของทางร้าน
ที่ปีนังจะมีทั้งคนแขกและคนจีนอาศัยอยู่รวมกัน แต่ถึงแม้ว่าจะคนละเชื้อชาติ
แต่สามารถอยู่รวมกันอย่างสงบได้ เป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากๆ
ศิลปะทางอาหารของปีนังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลายเมนูที่ชวนให้ลองชิม แต่…
ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนปีนังกัน ก็เพราะ Street Art ที่มีความเก๋ไก๋ ไฉไล
ศิลปะบนผนังกำแพง ถือเป็นเอกลักษณ์ในย่านเมืองเก่าจอร์จทาวน์แห่งนี้
มีทั้งภาพวาดลวดลายต่างๆ และ ศิลปะเหล็กดัดที่มีลวดลายต่างๆสวยงามแตกต่างกันไป
มีให้พบเห็นตามซอกซอยในละแวกเมืองเก่าตลอดสองข้างทาง
ที่นี่มีจักรยานให้เช่าทั้งแบบครอบครัว แบบช่วยกันปั่น 2 – 4 คน
หรือแบบฉายเดี่ยวคนเดียวปั่นเล่นชิลๆ มีให้เลือกหลายแบบ
โดยทริปนี้ผมเลือกเช่าจักรยานแบบช่วยกันปั่น มีหลังคากันแดดให้ด้วย ไม่ร้อนครับ ^^
ตึกในย่านนี้มองดูจะรู้สึกว่าคล้ายคลึงกับตึกเก่าย่านภูเก็ต
ใช่ครับ เพราะที่นี่ได้รับอิทธิพลการสร้างตึกรูปทรงสไตล์ชิโนโปรตุกีส
จะเห็นได้ว่ารูปทรงต่างๆมีทั้งแนวยุโรปปนกับจีนหลากสีสัน
เมื่อมาเที่ยวเมืองเก่าจอร์จทาวน์ อย่าลืมขอแผนที่จากที่พักเพื่อออกตามหารูปภาพริมกำแพงที่ขึ้นชื่อ
มีภาพวาดริมผนังกำแพงให้ถ่ายรูปแล้วอัพลง FB หรือ IG อย่างเพลิดเพลินไม่ขาดสายตลอดเส้นทาง
รวมไปถึงศิลปะเหล็กดัดที่พบเห็นตามมุมตึกต่างๆเมื่อเล่นกับแสงเงาจะได้ภาพที่สวยไปอีกแบบ
จะเห็นได้ว่าเมืองเก่าจอร์จทาวน์แห่งนี้ เหมาะกับการปั่นจักรยานสุดๆ
เพราะถนนเส้นหลักที่มีภาพสีผนัง จะปิดจราจรไม่ให้รถเข้ามา จะมีก็แต่นักท่องเที่ยวเดินเล่น
หรือจักรยานที่ให้เข้ามาปั่นเล่นชิลๆบนถนนเส้น Art แห่งนี้
แชะรูปตัวเองซักนิดระหว่างรถจักรยานติดจราจร ^^
และยังมีภาพวาดฝาผนังที่น่าสนใจเป็นของ Ernest Zacharevic ศิลปินชาวเอสโตเนีย
เรียนจบด้านศิลปะจากเอสโตเนียและอังกฤษ ปัจจุบันอาศัยอยู่ในปีนัง
งานของเค้าเป็นที่เริ่มสนใจจากการที่มาทำงานศิลปะข้างถนน
โดยเค้าจะออกสำรวจสภาพแวดล้อมก่อน เพื่อให้งานดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสถานที่นั้นๆ
เค้าเดินทางไปปีนังครั้งแรกในปี 2012 และใช้เวลากว่า 3 เดือน กับ 6 ผนังในเมืองที่ไม่มีงานศิลปะ
หรือภาพวาดใดที่ตอบสนองกับชีวิตประชาชนมาก่อน โดยแต่ละรูปจะสัมพันธ์กับวิถีชีวิตกับคนท้องถิ่น
เช่น ภาพ : รูปเด็กขี่จักรยาน (Kids on Bicycle)
ภาพ : เด็กนั่งบนมอเตอร์ไซต์ (Old Motorcycle)
ภาพ : เด็กเล่นชิงช้า (Children on the Swing)
ภาพ : เด็กเอื้อมมือหยิบของ (Boy on Chair)
มีหลากหลายมุม มีหลากหลายรูป ถ้ามากันกับเดอะแก๊งค์ รับรองถ่ายรูป อัพ แชร์ สนุกสนานกันไป
ผมกับเพื่อนได้เช่า Pocket WiFi ของ Tripizee มาด้วย สัญญาณมีทุกที่ดีครับ อัพรูปเล่นสนุกสนานกันไป
ยังมีอีกหลายมุม หลายรูปภาพ ที่ให้เพื่อนๆได้ลองหา เหมือนกำลังเล่นหา RC อยู่ก็ไม่ต่าง
ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็สามารถเก็บรูปภาพได้ครบ แต่ก็เป็นครึ่งวันที่สนุกไม่เบื่อเลยครับ
ช่วงเย็นวันเสาร์ ย่านจอร์จทาวน์จะมีถนนคนเดินขายของเต็มสองข้างทาง
หรือถ้าใครเดินแถวนี้แล้วยังไม่จุใจ ผมแนะนำให้ไปเดินย่าน Street Food ตรง China Town
รับรองอิ่มท้องก่อนกลับที่พักแน่นอนครับ ^^
อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่าทริปนี้เริ่มต้นจากการที่ผมไปแข่งบาสเก็ตบอลของบริษัท
และมาปั่นจักรยานต่อหลังจากแข่งขันเสร็จ ทำให้ตอนแรกมีอาการตึงน่อง เวลาปั่นจักรยาน แต่ดีที่พกยูนิเรน สเปรย์มาด้วย
พอมีอาการปุ๊บผมก็ฉีดพ่นตรงที่ปวดเลยครับ เลยทำให้ผมปั่นไปต่อได้ทั้งทริป รอดตัวไปครับ
ปิดทริปปั่นจักรยานเที่ยวปีนังด้วยภาพเมืองเก่าจอร์จทาวน์ยามค่ำคืน
“ปีนัง” ที่นี่เหมาะกับการมาปั่นจักรยานเที่ยวชิลๆ
เหมาะกับการมาทานอาหารแนว Street Food ที่อร่อยหลายอย่าง
เหมาะกับการถ่ายรูปเล่นกับผองเพื่อนเพื่ออัพรูปลงโซเชียล อวดเพื่อนๆที่ไม่ได้มาเที่ยวด้วย
เหมาะกับทริปวันหยุดสั้นๆที่ไม่ต้องใช้เวลามาก แค่ 3 วัน 2 คืนก็ครบและคุ้มค่ากับการมาเที่ยวแล้วครับ
ขอขอบคุณผู้คนที่น่ารัก เมืองปีนังที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างอบอุ่น ^^
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^