เวลานี้ หากเอ่ยถึงเขาหลัก จ.พังงา คงไม่มีใครไม่รู้จัก “เทวาศรม เขาหลัก (Devasom Khao Lak)” เป็นแน่ เพราะผู้คนมากมายมา Check In และถ่ายรูปลง Social กันให้เพียบ จนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าที่นี่มีอะไรดี ทำไมถึงเป็นกระแสได้มากมายขนาดนี้ ? รีวิวนี้มีคำตอบเพราะจะพาไปข้ามประตูเวลาสู่อาณาจักรโบราณริมทะเลอันดามัน ที่สวยงามตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาสัมผัสและจุดถ่ายรูปมากมาย การันตีได้เลยว่ามาทั้งทีมีภาพเซลฟี่กลับไปเกิน 100 รูปแน่นอน!!!
การเดินทางไปยัง เทวาศรม เขาหลัก นั้นไม่ยาก เราไปลงสนามบินภูเก็ตด้วยสายการบิน Thai AirAsia ซึ่งรองรับมาตรการ New Normal เป็นอย่างดี ดังนี้
⏰ Check In ไร้สัมผัส (คน) ทำผ่านตู้ Kiosk
? มีการตรวจวัดอุณหภูมิที่หน้า Gate ตอนเรียกขึ้นเครื่อง
??♀️ เรียกขึ้นเครื่องตามโซนที่นั่งเพื่อความเป็นระเบียบและลดความแออัด
?บนเครื่องนั่งติดกันได้ แต่ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ไม่มีอาหารและเครื่องดื่มบริการ นิตยสารต่างๆ ก็ไม่มี อ่อ…ของที่ระลึกยังไม่มีจำหน่าย ต้องอดใจรอกันอีกนิดนะ
? ห้ามทานอาหารและเครื่องดื่มส่วนตัว
? เวลาลงเครื่อง พนักงานจะเรียกลงทีละ 3 แถว แต่ละ Lot ห่างกัน 30 วินาที
ใครที่ยังกังวลกับการขึ้นเครื่องบิน สบายใจได้เพราะสายการบิน Thai AirAsia มีการรักษาความสะอาดและป้องกันอย่างดีทุกขั้นตอน (ทั้งนี้ เราเดินทางในเดือนมิถุนายน 2563 ส่วนมาตรการจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร สามารถตรวจสอบกับทางสายการบินได้เลย)
เมื่อมาถึงสนามบินภูเก็ต เราตรงไปรับรถเช่าที่จองไว้ เพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงแรม โดยขับรถจากสนามบินภูเก็ตมาประมาณ 1.5 ชั่วโมง ก็ถึงโรงแรม เทวาศรม เขาหลัก แรกเริ่มที่ได้มาสัมผัส ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และผ่อนคลาย รายล้อมด้วยทะเลอันดามันอันงดงาม ให้ความเป็นส่วนตัวกว่าชายหาดตามเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
ทางโรงแรมต้อนรับเราด้วย Welcome Drinks อย่างน้ำอัญชันมะนาว และขนมพื้นเมืองเต้าส้อ ในส่วนของ Lobby เป็นเสมือนกำแพงเมือง ที่รอรับแขกผู้มาเยือน
จุดถ่ายรูป#1 : บริเวณ Lobby สามารถเพลิดเพลินกับมุมถ่ายรูปยืนหันหน้าออกทะเล รับลมชิวๆ
Check In เสร็จเรียบร้อย พนักงานจะพาเราก้าวข้ามสู่ ประตูเวลา (Devasom Gate) ซึ่งเป็นประตูไม้สักขนาดใหญ่ ที่เคยทำหน้าที่เป็นประตูวังแห่งหนึ่งในรัฐทะเลทรายในประเทศอินเดียมาก่อน เมื่อมองตรงจากประตู จะเห็นทะเลอันดามันผ่านอุโมงค์ก่ออิฐซึ่งเป็นมุมยอดนิยมของที่นี่ เพราะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก จึงทำให้เราเห็นความงามของพระอาทิตย์ตกได้อย่างงดงามเกินคำบรรยาย ที่ด้านหน้าของประตูจะมีกลองเพื่อให้เราตีบอกเทวดาให้ทราบถึงการมาเยือนในครั้งนี้
ใครที่ได้ก้าวเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ คงต้องทึ่งกับรายละเอียดต่างๆ ของโรงแรม เพราะผู้บริหารของที่นี่ใช้เวลาคิด Concept และเฟ้นหาของตกแต่งต่างๆ มานานร่วม 5 ปี จนเป็นอาณาจักรโบราณริมทะเลอันดามันแบบที่เราได้เห็นกัน ให้กลิ่นอายของอินเดีย อาหรับ ผสมเปอร์เซียนิดๆ
พื้นที่ของโรงแรมมีทั้งหมด 16 ไร่ ประกอบด้วยห้องพักและวิลล่าจำนวน 69 ยูนิต ซึ่งจะเห็นทะเลทุกห้อง แบ่งเป็น ห้องพักแบบ Grand Deluxe 24 ห้อง ซึ่งได้วิวทะเลและสวน / แบบ Junior Suite with Jacuzzi 21 ห้อง เห็นวิวทะเลและทะเลสาบ โดดเด่นด้วยอ่างอาบน้ำที่หน้าห้องพัก / Pool Paradise Suite 12 ห้อง ได้วิวทะเลและทะเลสาบ ให้ความเป็นส่วนตัว / Pool Villa 10 หลัง (หนึ่งห้องนอน 8 หลัง และสองห้องนอน 2 หลัง) และ Sky Villa 2 ห้องนอน จำนวน 2 หลัง ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 430 ตารางเมตร
ระหว่างทางเราจะเดินผ่าน ห้องสมุด ซึ่งอยู่ชั้นล่างของ Lobby ตกแต่งด้วยกระจกใส ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบายตา ถัดมาเป็นอาคารที่พัก และแปลงสมุนไพร ที่มีพืชพันธุ์นานาชนิด สำหรับใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทางโรงแรมจัดไว้ทุกวัน (สามารถเช็คกับทางโรงแรมได้โดยตรง)
เมื่อเดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอกับ อุโมงค์ก่ออิฐ ที่เล่นระดับอย่างสวยงาม ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตก จุดนี้นับเป็นจุดที่สวยงามที่สุดจุดหนึ่งของโรงแรมซึ่งไม่ควรพลาด
จุดถ่ายรูป#2 : บริเวณอุโมงค์ก่ออิฐ โพสท่าสวยๆยืนอยู่ตรงกลางช่องอุโมงค์ รับรองได้ภาพสวยกลับไปแน่นอน
ห้องที่เราพักครั้งนี้เป็นห้อง Beach Pool Villa หมายเลข 4 ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 160 ตารางเมตร โดย Villa แต่ละหลังจะมี Floor Plan ที่แตกต่างกัน มีสระหินอ่อนส่วนตัว ลานไม้และเดย์เบดริมสระ
ตัวห้องนอนและสระว่ายน้ำจะขนานไปกับชายหาด เมื่อเปิดเข้าไปจะเจอกับทางเดินออกสู่สระส่วนตัว ด้านซ้ายเป็นห้องนั่งเล่น ที่มีโซฟา เก้าอี้โยก พร้อมทั้งมินิบาร์ที่ทานได้ฟรีทั้งหมด และจะมาเติมทุกวัน ซึ่งมีทั้งขนม น้ำอัดลม เบียร์ น้ำผลไม้สด ชา กาแฟ
ส่วนด้านขวาจะเป็นส่วนของห้องน้ำ ซึ่งมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ และ Rain Shower 2 อัน หันหน้าเข้าหากัน ถัดเข้ามาจะมีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง และห้องสุขา
ห้องนอนกว้าง มีเตียงขนาดใหญ่หันหน้าสู่ทะเล จากห้องนอนสามารถเดินออกไปยังระเบียงและสระส่วนตัวได้เช่นกัน ตัวห้องตกแต่งได้สวยงาม คุมโทน ฟังก์ชั่นใช้สอยต่างๆ ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว
สระส่วนตัวเป็นสระน้ำเกลือ ลึก 1.2 เมตร จากสระสามารถเดินลงไปที่สนามหญ้า และมุ่งหน้าสู่ชายหาดได้แบบไม่มีอะไรขวางวิวสวยๆ แม้จะไม่มีรั้วกั้น แต่เรื่องความเป็นส่วนตัวก็ไม่ใช่ปัญหา
นอกจากสระว่ายน้ำส่วนตัวในห้องแล้ว สระส่วนกลาง ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเป็นสระที่อยู่ริมชายหาด ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังว่ายน้ำอยู่ริมทะเล
จุดถ่ายรูป#3 : บริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลาง ลองหาชุดว่ายน้ำสีสดๆ ถ่ายคู่กับเบาะเหลือง สระหินอ่อน นี่แหล่ะความลงตัวของที่สุด
มีฉากหลังเป็นกำแพงที่ตกแต่งด้วยขั้นบันได ได้แรงบันดาลใจมาจากบ่อน้ำ Chand Baori อินเดีย ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเม็ดทรายของที่นี่สีจะไม่ขาวเหมือนชายหาดที่อื่น เนื่องมาจากแต่ก่อนบริเวณนี้เป็นเมืองท่า และเคยมีการทำแร่ดีบุกกันมาก่อน ทำให้ทรายที่นี่มีสีน้ำตาลเข้มอมทอง
จุดถ่ายรูป#4 : บริเวณกำแพงที่ตกแต่งด้วยขั้นบันได ค่อยๆปีนขึ้นไปโพสท่าเก๋ๆ อย่าปีนสูงมากเพราะขั้นจะเล็ก ยืน นั่งลำบาก เอาแค่ระดับพองาม จะถ่ายคู่ ถ่ายเดี่ยว ถ่ายเซลฟี่ ถ่ายออกมาแบบไหนก็สวยหมด
สำหรับใครที่อยากผ่อนคลาย ยืดเส้นยืดสาย ขอแนะนำให้ลองมาใช้บริการนวด/สปาที่ Devasom Spa / Wellness ที่ได้มาตรฐาน SHA มั่นใจได้ในเรื่องความสะอาด ปลอดภัย
จุดถ่ายรูป#5 : หากมาใช้บริการนวดไทย ขอแนะนำเตียงนวดด้านล่าง ราวกับกำลังนวดอยู่กลางบ่อน้ำในโมร็อคโคยังไงยังงั้นเลย แถมได้ภาพสวยๆ กลับไปอวดเพื่อนๆอีกด้วย
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ โยคะ มวยไทย และกิจกรรมทางน้ำอย่างพายเรือคายัคและแพดเดิลบอร์ดให้บริการด้วย หากใครที่อยากเล่นกีฬาทางน้ำ อย่าลืมเช็คเวลาน้ำขึ้น-น้ำลงด้วยนะ
ส่วนเรื่องของอาหาร ที่ เทวาศรม เขาหลัก มีให้บริการทั้งอาหารไทย ที่ห้องอาหาร Takola
และอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่ Devasom Beach Grill Bar ตั้งอยู่ริมหาดคึกคัก แม้ชื่อจะคึกคัก แต่จริงๆ แล้ว เงียบสงบ สวยงาม ไม่วุ่นวาย
อาหารเช้าให้บริการที่ห้องอาหาร Takola ซึ่งอยู่ด้านล่างของล็อบบี้ เปิดระหว่างเวลา 7.00-10.30 น. มีทั้งโซนนั่งด้านในกับโซนนั่งด้านนอก
การจัดอาหารของที่นี่สอดคล้องกับนโยบาย New Normal โดยทางโรงแรมจะจัดอาหารเป็นจานๆ เราสามารถหยิบไปรับประทานได้เลย ไม่ต้องยืนรอคิวตักอาหาร สำหรับเรื่อง Social Distancing ทางโรงแรมก็ให้ความใส่ใจในทุกจุดมีการทำความสะอาดและจัด Zoning ได้ดี ไลน์อาหารมีให้เลือกหลากหลายทั้งเมนูไข่ต่างๆ Grains สลัด Cold Cut ก๋วยเตี๋ยว เบเกอรี่ ไส้กรอก เบคอน วาฟเฟิล Hashbrown โยเกิร์ต น้ำผลไม้ (แนะนำ น้ำมะพร้าว) ผลไม้ และชา กาแฟ
จุดถ่ายรูป#6 : อาหารแต่ละเมนูได้ถูกจัดมาเป็นจานๆไว้อยู่แล้ว นำมาวางบนโต๊ะตอนทานอาหารเช้า ถ่ายรูปรวมแต่ละเมนู ถ่ายยังไงก็ออกมาสวย ดูน่าทาน
ห้องพักแบบวิลล่าสามารถทานอาหารเช้าแบบ Floating Breakfast ได้ด้วย จะถ่ายรูปก็น่ารัก หรือจะทานจริงก็อิ่มจุกทีเดียว
สำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็น เราได้มาลองทานที่ห้องอาหารริมทะเล Devasom Beach Grill Bar โดยเมนูแนะนำ ได้แก่ Caesar Salad เพื่อปรับสมดุลของระบบการย่อยอาหารกันสักเล็กน้อย ด้วยผักสดๆ พร้อมด้วยเครื่องและน้ำสลัดรสกลมกล่อม หรือจะเป็น Devasom Citrus Salad ก็ให้ความสดชื่นได้ดีไม่น้อย ตามด้วยซุป Crab Bisque รสเข้มข้น เต็มอิ่มกับเนื้อปูและ Virgin Truffle Oil ใครที่ชอบทาน Calamari ที่นี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ส่วนอาหารจานหลัก เราขอแนะนำ Andaman Grilled Fish Panini ที่จะได้ลิ้มรสเนื้อปลาสดๆ แสนหวาน และ Devasom Club Sandwiches หรือจะเป็น Sea Bass with Matsutake Mushroom และ Olive Oil Poached Salmon ก็จะช่วยเสริมให้มื้ออาหารนี้น่าจดจำไปอีกนาน
ส่วนมื้อก่อนกลับ เราลองอาหารไทยที่ห้องอาหาร Takola โดยเริ่มกันที่เมนูเรียกน้ำย่อยหาทานยากอย่าง ม้าฮ่อ กุ้งโสร่ง ตามด้วย แกงปูใบชะพลู รสจัดจ้านที่เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ตามแบบฉบับของอาหารใต้โดยแท้ และที่ขาดไม่ได้คืออาหารพื้นเมืองอย่าง กุ้งผัดกะปิ และ ใบเหมียงผัดไข่ รสชาติของอาหารจัดจ้านไม่แพ้ร้านอาหารพื้นเมืองเลยทีเดียว
ยามบ่ายสามารถผ่อนคลายกับเซ็ต Afternoon Tea เก๋ๆ ที่เสิร์ฟมาเป็นขนมไทยและขนมพื้นเมืองที่หาทานได้ยาก ทานคู่กับชาร้อนๆ รับรองฟินแน่นอน
จุดถ่ายรูป#7 : ถึงจะเป็นขนมพื้นเมืองแต่ถ่ายรูปแล้วออกมาดูหรูได้ เพราะการจัดวางขนมที่เสิร์ฟมาคู่กับชาร้อน แนะนำชาเอิร์ลเกรย์ เพราะสีของชาจะเข้มๆถ่ายรูปแล้วเห็นสีชัด แถมกลิ่นหอมอีกด้วย
ณ เวลานี้ ไทยเที่ยวไทยคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากอยากได้ประสบการณ์สุดพิเศษในบรรยากาศ ที่เหมาะกับการพักผ่อน ลองมาสัมผัส เทวาศรม เขาหลัก (Devasom Khao Lak) ห้องพักดี Facilities ครบ บริการเยี่ยม พร้อมด้วยราคาโดนใจ รีบจอง แล้วเตรียมชุดสีเอิร์ธโทนเพื่อไปถ่ายรูปกันด้วยนะ หรือหากจะเป็นสายแซ่บจัดชุดสีสันสดใสมา ก็ไม่ว่ากัน แล้วรับรองว่าต้องติดใจกับที่นี่เป็นแน่
ว่าแล้ว ก็อย่าให้ความฝันลอยล่องอยู่แค่ในจินตนาการ ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง กับ โปรโมชั่นพิเศษ!!! พร้อมเลือกรับส่วนลดเพิ่มได้อีกจากสิทธิ “เราเที่ยวด้วยกัน” (สำหรับการเข้าพัก 2 คืนขึ้นไป) พร้อมรับ #ของขวัญพิเศษ :
? ทุกการเข้าพัก เลือกรับ Devasom Afternoon Tea Set หรือ Poolside Signature Drinks Set สำหรับ 2 ท่าน 1 ครั้ง
? พักห้อง Pool Suite หรือ วิลล่า รับของขวัญพิเศษ Spa Credit มูลค่า 1,000 บาท
?พักคืนวันจันทร์ – พฤหัสฯ รับของขวัญพิเศษ Spa Credit มูลค่า 1,000 บาท (ต่อห้องพักและวิลล่าต่อการเข้าพัก 2 คืนขึ้นไป)
? #สิทธิพิเศษหลากหลาย :
– ส่วนลด พิเศษ 10% อาหารเครื่องดื่ม และ 20% สปา
– ฟรี มินิบาร์ (รวมแอลกอฮอล์สำหรับ วิลล่า)
– ฟรี บริการคายัค แพดเดิลบอร์ด จักรยาน และฟิตเนส
– ฟรี กิจกรรมในรีสอร์ท Devasom Experience
– แลกซื้อ บริการรถรับ/ส่งสนามบินภูเก็ต ราคาพิเศษ 1,200 บาท/เที่ยว
⭐ Seaside Grand Deluxe 3 วัน 2 คืน ราคา 8,400 บาท (ใช้สิทธิจ่ายเพียง 2,520 บาท/คืน)
⭐ Seaside Junior Suite with jacuzzi 3 วัน 2 คืน ราคา 9,600 บาท (ใช้สิทธิจ่ายเพียง 2,880 บาท/คืน)
⭐ Seaside Pool Paradise Suite 3 วัน 2 คืน ราคา 15,000 บาท (ใช้สิทธิจ่ายเพียง 4,500 บาท/คืน)
⭐ Beach Pool Villa 3 วัน 2 คืน ราคา 17,000 บาท (ใช้สิทธิจ่ายเพียง 5,500 บาท/คืน)
⭐ Beachfront Pool Villa 3 วัน 2 คืน ราคา 19,600 บาท (ใช้สิทธิจ่ายเพียง 6,800 บาท/คืน)
⭐ 2-Bedroom Beachfront Pool Villa 3 วัน 2 คืน ราคา 28,000 บาท (ใช้สิทธิจ่ายเพียง 11,000 บาท/คืน)
⭐ Devasom Sky Villa 2-Bedroom 3 วัน 2 คืน ราคา 58,000 บาท (ใช้สิทธิจ่ายเพียง 26,000 บาท/คืน) พร้อมฟรีรถรับส่งสนามบินภูเก็ต และ Spa Treatment
?#ช่องทางการจอง : www.devasom.com/khaolak ใส่ Promo. Code TH3001 เท่านั้น หรือ คลิ๊ก https://devasomkhaolak.backhotelengine.com/en/?cp=TH3001
? #เริ่มจอง : วันนี้ – 15 ส.ค. 63
? #วันเข้าพัก : วันนี้ – 31 ต.ค. 63
#สอบถามเพิ่มเติม ? โทร: 076-592-277 (08:00-17:00) หรือ INBOX
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^