หากเอ่ยถึงโรงแรมในเครือแมริออท (Marriott) เวลานี้คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อ เพราะปัจจุบันแมริออทเป็นเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่ซื้อเครือ Starwood ไปเป็นที่เรียบร้อย ทำให้แบรนด์สัญชาติอเมริกันแบรนด์นี้มีโรงแรมในเครือกว่า 7,200 แห่งทั่วโลก มีจำนวนห้องพักรวมมากกว่า 1.3 ล้านห้อง และวันนี้เราจะพาทุกคนไป Staycation กลางใจเมืองกับโรงแรมแมริออทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อย่าง BANGKOK MARRIOTT MARQUIS QUEENS’ PARK
BANGKOK MARRIOTT MARQUIS QUEENS’ PARK ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ติดสวนเบญจสิริ รายล้อมไปด้วยศูนย์กลางธุรกิจ และแหล่งช้อปปิ้ง (คำว่า Marquis คือเครื่องหมายการันตีของแบรนด์ว่าโรงแรมนั้นๆมีห้องมากกว่า 1,000 ห้อง / พื้นที่จัดเลี้ยงมากกว่า 5,000 ตารางเมตร / ใจกลางเมือง / มีร้านอาหารที่โดดเด่น / เป็นโรงแรม flagship สำหรับเมืองนั้นๆ มีทั้งหมด 10 แห่งทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือที่ไทย)
ห้องพักของมีมากถึง 1,388 ห้อง แบ่งเป็น 2 ตึก คือ ตึกเหนือและตึกใต้ ประเภทห้องแบ่งเป็น 7 Room Types ได้แก่ Deluxe / Deluxe Parkview / M Club / M Suite / Two-Bedroom Family Suite / Grand Marquis Suite / The Sky Suite พื้นที่ใช้สอยภายในห้องเริ่มตั้งแต่ 32 – 1,002 ตารางเมตร มีห้องประชุมสัมมนาและห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับแขกได้มากกว่า 1,000 คน และห้องอาหารอันหลากหลายทั้ง Goji Kitchen + Bar / Siam Tea Room / Pagoda Chinese Restaurant / Akira Back Restaurant and Bar / ABar Rooftop รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ ฟิตเนส ห้องสตรีม ซาวน่า สปา สระว่ายน้ำ และคิดส์คลับ
ห้องที่เราพักเป็นห้อง M Suite พื้นที่ใช้สอย 72 ตารางเมตร แยกเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำ โซนห้องนั่งเล่น มีโต๊ะนั่งทำงาน โซฟาสำหรับนั่งมองวิวเมืองได้อย่างเพลิดเพลิน โซนห้องนอนมีเตียงนอนขนาดใหญ่แสนนุ่มตามแบบฉบับของ Marriott’s Revive Bedding พร้อมด้วยโซฟาริมกระจก
ส่วนของห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ห้องอาบน้ำและห้องสุขาแยกสัดส่วนชัดเจน Amenities ของที่นี่เป็นของ THANN เรียกว่าตอบสนองความต้องการได้อย่างครบครัน
สำหรับผู้ที่เข้าพักห้องนี้สามารถมาใช้ M Club Benefits ได้ที่ M Club Lounge ซึ่งตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่ชั้น G บริเวณล็อบบี้ โดยสามารถรับบริการ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ได้ฟรีตลอดทั้งวัน
บริการอาหารว่างระหว่างเวลา 17:30-19:30 น. รวมถึง Evening Cocktail ที่ให้บริการระหว่างเวลา 17:30-20:00 น. และรีดผ้าฟรีจำนวน 2 ชิ้นต่อวัน
M Club Lounge เอาใจขาดื่ม ^^
ห้องอาหารขึ้นชื่อของที่นี่คือ GOJI KITCHEN + BAR ซึ่งให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ เสิร์ฟอาหารนานาชาติจากทั่วโลกด้วยไลน์อาหารที่มีให้เลือกอย่างละลานตา ทั้งอาหารจานเด่นจากเอเชีย อาหารยอดนิยมจากฝั่งตะวันตก รวมทั้งอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น ตะวันตก อินเดีย ที่เสิร์ฟแบบปรุงสดใหม่ทุกมื้อผ่านครัวแบบเปิดที่เราสามารถเห็นเชฟปรุงอาหารกับแบบสดๆ นับเป็นไลน์อาหารเช้าที่มีให้เลือกมากเป็นอันดับต้นๆ อีกทั้งคุณภาพของอาหารขอบอกเลยว่าไม่น้อยหน้าที่ใดแน่นอน
อาหารเช้าหลากหลาย
บรรยากาศยามเช้าห้องอาหารติดสวนเบญจสิริ
นอกจากนี้ยังมีให้บริการบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน บรั้นซ์ และมื้อเย็น ซึ่งเป็นที่หมายปองของหลายคน เพราะมีไลน์บุฟเฟ่ต์นานาชาติให้เลือกมากถึง 14 Stations ปรุงกันสดใหม่แบบจานต่อจาน
ทั้งซีฟู้ดสดๆ Foie Gras รสละมุน อาหารญี่ปุ่นคุณภาพเยี่ยม อาหารไทยรสจัดจ้าน อาหารเอเชียหลากหลายเมนู ติ่มซำแบบโฮมเมด ส้มตำปลาร้ารสนัว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อลาย และของหวานที่แสนจะละลานตา โซนที่นั่งมีให้เลือกหลายมุม ทั้งวิวสวน ที่นั่งด้านในใกล้ไลน์อาหาร หรือห้องส่วนตัวสำหรับกลุ่มใหญ่
อีกหนึ่งห้องอาหารที่ไม่อยากให้พลาด คือ SIAM TEA ROOM ซึ่งตกแต่งในสไสตล์ร่วมสมัย ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นไทย อาทิ ผนังที่นำลักษณะเด่นของฝาบ้านไม้โบราณมาเป็นจุดเด่นในการออกแบบ กระเบื้องลายมณียกช่อสีคราม เฟอร์นิเจอร์ลายไทย ฯลฯ เสมือนกำลังหยิบยื่นความอบอุ่นของครอบครัวแบบไทยเดิมให้แก่ผู้ที่มาเยือน ผ่านอาหารไทยรสจัดจ้านตามแบบฉบับดั้งเดิม
เมนูที่ขอแนะนำ ได้แก่ ปอเปี๊ยะสดกุ้งทะเล ซี่โครงหมูอบข้าวคั่วน้ำจิ้มแจ่ว กุ้งแพยำมะม่วง แกงคั่วเนื้อปูกุ้งทะเลใบชะคราม และของหวานอย่างพลอยกรอบมะพร้าวหอม และขนมปังสังขยาใบเตย รวมทั้งเครื่องดื่มหลากหลายที่มีเมนูพิเศษในแต่ละเทศกาล
ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศของ Rooftop ยามค่ำคืน อย่าพลาดกับ ABAR ROOFTOP บาร์สไตล์ Open Air
Rooftop Bar กลางใจเมืองบนชั้น 38 เป็นหนึ่งในศูนย์รวม Gin ที่คัดสรรมาอย่างดีกว่า 50 ชนิด ให้ได้เครื่องดื่มที่มีความหลากหลาย
สำหรับ Facilities ต่างๆ ที่นี่ก็มีไว้ให้บริการอย่างครบครัน ทั้ง Fitness Center ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยทั้งเครื่องออกกำลังกายและเวทเทรนนิ่ง
รวมถึงห้องสควอชที่สามารถใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
อีกทั้งยังมี Quan Spa ซึ่งเป็นสปาในบรรยากาศผ่อนคลาย ได้เพลิดเพลินกับอ่างแช่ตัวขนาดใหญ่ในห้องทรีทเม้นต์
รวมถึง สระว่ายน้ำ ส่วนกลางที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 9 ไม่วุ่นวาย อีกทั้งยังมี KIDS’ CLUB สำหรับน้องๆ หนูๆ ให้ได้เพลิดเพลินกัน ใครไม่อยากเดินทางไปไหนไกลๆ ลองมา Staycation แบบสุดหรูกันที่ BANGKOK MARRIOTT MARQUIS QUEENS’ PARK รับรองว่าได้กลับบ้านด้วยความประทับใจแบบไม่รู้ลืม
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^