สำหรับใครที่หลงรักศรีพันวา โรงแรมห้าดาวอันดับต้นๆ ของไทย ที่พรั่งพร้อมไปด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้วหละก็ ไม่ควรพลาดกับโรงแรมน้องใหม่ในเครืออย่าง บาบา บีช คลับ หัวหิน ที่เรียกได้ว่าถอดแบบกันมาโดยแท้ ชื่อเก๋ๆ ของบาบา บีช คลับ นั้น คำว่า “บาบา” เป็นชื่อเรียกผู้ชายของกลุ่มลูกครึ่งมลายูและจีน ซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย เพราะที่นี่เค้ามีต้นกำเนิดมาจากศรีพันวาที่ภูเก็ตนั่นเอง เกริ่นนำมาประมาณนี้แล้ว อยากจะทำความรู้จักลูกครึ่งมลายูและจีนนี้ให้มากขึ้นกันแล้วหรือยัง ถ้าอยากรู้จักตามพวกผมมาพักกันที่…“Baba Beach Club Hua Hin ดื่มด่ำสุนทรีย์แห่งดนตรีที่ลงตัว”
Baba Beach Club Hua Hin มีพื้นที่กว้างขวางตั้งอยู่ในอาณาจักรของทิวทะเล เอสเตท ซึ่งอยู่ติดถนนเพชรเกษมยาวไปถึงหาดชะอำ เดินทางจาก กทม. เพียง 2 ชั่วโมงเศษ จากทางเข้าขับรถตรงเข้าไปจนถึงริมหาด ก็จะพบกับโรงแรมขนาดใหญ่ ดูหรูหรา สวยงาม ที่ด้านหน้าของห้องพักเป็นชายหาดชะอำทอดยาว ได้ยินเสียงคลื่นเป็นระยะ เหมาะสำหรับมานั่งรับลมเย็นๆ
พอเข้ามาที่ Lobby ทางโรงแรมก็ต้อนรับอย่างดีด้วย Welcome Drinks เป็น Lime Mint หอมๆ ชื่นใจ เรื่องการบริการที่นี่หายห่วง เพราะเค้าเทรนกันมาเป็นอย่างดี ตามมาตรฐานของศรีพันวาเป๊ะๆ
ที่บริเวณริมหาดในตอนเย็นของวันศุกร์-เสาร์ จะมี DJ มาเปิดเพลงให้ฟังกันเพลินๆ ด้วยนะครับ
มาดูในส่วนของห้องพักกันดีกว่า ห้องพักของโรงแรมมีให้เลือกทั้งแบบ Beachfront Pool Suite with Garden สำหรับ 2 ท่าน มีจำนวน 6 ห้อง มีพื้นที่ 95 ตารางเมตร / Beachfront Pool Suite สำหรับ 2 ท่าน มีจำนวน 10 ห้อง ขนาดพื้นที่ 73 ตารางเมตร / Beachfront Penthouse สำหรับ 2 ท่าน มี 2 ห้อง ขนาดพื้นที่ 150 ตารางเมตร มีห้องนั่งเล่น สระน้ำยาวเท่ากับ Pool Suite 2 ห้อง นอกจากห้องพักในส่วนของโรงแรมแล้ว ยังมีห้องพักในส่วนของ Residence ซึ่งเป็นแบบ Pool Villa เป็นหลัง มีทั้งแบบ Three-Bedroom Residence Pool Villa มี 3 ห้องนอน เหมาะสำหรับ 6 ท่าน พื้นที่ 351 ตารางเมตร และแบบ Five-Bedroom Residence Pool Villa มี 5 ห้องนอน สำหรับ 10 ท่าน พื้นที่ 635 ตารางเมตร
สำหรับห้องที่เราพักในครั้งนี้ เป็นห้องแบบ Beachfront Pool Suite ตกแต่งแบบ Neo-Colonial Style ดูเรียบหรู คลาสสิก
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะเจอกับมุมมินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มทั้งชา กาแฟ ไมโล น้ำอัดลม ชามะนาว น้ำเปล่า อีกทังยังมีขนม ไอศกรีม ผลไม้ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้รับประทานได้ฟรีทั้งหมด ซึ่งเครื่องดื่มและขนมเหล่านี้ แม่บ้านจะมาเติมให้ทุกวัน ทานได้เต็มที่
ส่วนของห้องนอน ทันทีที่เข้ามาในห้อง ก็ต้องตะลึงกับเตียงนอนขนาดใหญ่ แถมยังนุ่ม น่านอนสุดๆ ที่หัวเตียงเป็นโต๊ะทำงาน บริเวณมุมห้องมี TV จอโค้งขนาดใหญ่ ให้เราเพลิดเพลินกับช่อง True Vision ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วย iPod ที่ต่อกับเครื่องเสียง Bose ให้ความบันเทิงถึงขีดสุด
ในส่วนของห้องน้ำ มีพื้นที่กว้างขวางไม่แพ้กัน แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ทั้งอ่างล้างหน้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ พร้อมด้วยอ่างแช่น้ำขนาดใหญ่ ซึ่งที่นี่มีบริการตีฟองให้ด้วยนะครับ สามารถให้เจ้าหน้าที่มาทำให้ได้ เสร็จปุ๊บก็ลงไปนอนแช่น้ำฟินๆ ส่วนห้องอาบน้ำมีทั้งฝักบัวและ Rain Shower อุปกรณ์ต่างๆ ครบครัน
หากอยากจะนั่งเล่นพักผ่อน หรือสวีทกับคนรู้ใจ ก็มีโซฟาให้เลือกนั่งทั้งด้านในและด้านนอก มองออกไปเห็นทะเลหัวหินอยู่นา
ที่เป็นไฮไลท์สุดๆ เห็นจะเป็นบริเวณด้านหน้าห้อง ที่มีสระน้ำเกลือแบบ Infinity-Edge Pool แบบส่วนตัว ลึก 1.2 เมตร ให้เล่นน้ำ แช่ตัว ยืนมองวิวสวยๆ ฟังเสียงคลื่น พร้อมรับลมธรรมชาติ ได้บรรยากาศของการพักผ่อนเต็มที่
อีกหนึ่งบริการที่ถอดแบบศรีพันวากันมาเลย นั่นคือ การจัดเรียงข้าวของเครื่องใช้ ลองสังเกตกันดูว่าทันทีที่แม่บ้านมาทำห้อง เครื่องสำอางค์ หรือครีมบำรุงผิวที่เราวางเอาไว้นั้น จะถูกจัดออกมาได้เป็นระเบียบขนาดไหน นี่แหละคือเสน่ห์ของเครือศรีพันวาที่ไม่มีใครเหมือน
สำหรับ Facilities ต่างๆ ในโรงแรมนั้น นอกจากสระส่วนตัวในแต่ละห้องแล้ว ที่บริเวณริมหาดก็ยังมีสระว่ายน้ำที่ให้บริการในช่วงเวลา 7:00-19:00 น. มีทั้งสระเด็ก สระผู้ใหญ่ ที่เก๋คือมี Pool Toy แบบต่างๆ ไว้ให้บริการฟรีด้วยครับ
บริเวณริมสระมีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อนชิลๆ มองน้ำพุเพลินๆ รับลมเย็นๆ แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว
สีสันยามเย็น เมื่อตอนที่เห็นยังคิดเลยว่า…โรแมนติกไม่น้อย
ด้านข้างของสระ เป็น Baba Beach Bar ที่เราสามารถดื่มด่ำกับเครื่องดื่มเย็นๆ ริมชายหาด พร้อมกับบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตก ที่เคล้าคลอไปด้วยเสียงเพลงจากจังหวะของ DJ หมุนเวียนเปลี่ยนกันมาให้ความบันเทิงกัน ซึ่งจะให้บริการในช่วงเวลา 11:00-22:00 น.
เกริ่นมาซะยาว เริ่มหิวซะแล้ว ขอมาที่เรื่องอาหารกันบ้าง สำหรับอาหารเช้าจะให้บริการที่ Baba Beach Restaurant โดยจะเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ ซึ่งสามารถตักเองหรือสั่งจากเมนูเพิ่มเติม
ทั้งเมนูไข่ต่างๆ อาทิ Sunny Side Up Egg ที่สามารถเลือก Side Dish ได้ทั้ง Bacon, Tomato ฯลฯ หรือจะเป็นเมนูที่เป็น Signature ของโรงแรม นั่นก็คือ Baba Style Eggs Benedict ที่มาพร้อม Truffle Sauce หอม อร่อย เสิร์ฟพร้อม Pork Sausage เนื้อนุ่มหนังกรอบ และ Bacon กร้อบกรอบ เมนูนี้ไม่ควรพลาด เพราะเป็นเมนูขึ้นชื่อเมนูเดียวกับที่ศรีพันวาเลย ส่วนไลน์บุฟเฟ่ต์ก็มีให้เลือกทั้งก๋วยเตี๋ยวผัด ซุป ข้าวสวย สลัดผักต่างๆ ขนมปังเบเกอรี่ คอนเฟลก กราโนล่า ฯลฯ
ทีเด็ดอีกอย่างจะเป็นน้ำผลไม้ที่ทางโรงแรมคั้นสดทุกเช้า โดยไม่ผสมน้ำเชื่อม มีให้เลือกทั้งน้ำส้ม น้ำสับปะรด และน้ำแตงโม หากใครที่ชอบชา กาแฟ หรือช็อคโกแลต สามารถสั่งที่พนักงานได้เลยครับ ซึ่งทางโรงแรมทำสดๆ กันแก้วต่อแก้ว อาหารเช้านี้จะให้บริการระหว่างเวลา 7:00-10:30 น.
สำหรับมื้อเที่ยง ยังคงอยู่ที่ Baba Beach Restaurant แต่ห้องอาหารนี้จะถูกปรับเปลี่ยนโดยการเปิดประตูบานใหญ่ไว้รับลมโชยเย็นๆจากทะเลแทนการเปิดแอร์ รวมถึงมีนักเป่าแซกโซโฟน มาให้เสียงดนตรีอันไพเราะอยู่ข้างโต๊ะ เพิ่มอรรถรสและความสุนทรีย์ในการรับประทานอาหารมื้อนี้ขึ้นไปอีก ^^
ขอเริ่มด้วยเครื่องดื่มอย่าง Baba Punch ที่มีส่วนผสมของส้มสด Hibiscus Juice และ Lime ทำให้ได้น้ำพั้นช์หวานๆ สีสวย ให้ความรู้สึกสดชื่น คลายร้อน อีกแก้วหนึ่งเป็น Lychee Cooler ได้รสชาติหวานของลิ้นจี่ ตัดกับน้ำมะนาว และเติมความหอมด้วยมิ้นท์
มาต่อกันที่ Snack เรียกน้ำย่อยกันซะหน่อย ผมเลือกเป็น Salt & Pepper Bacon เบคอนบางๆ ทอดกรอบได้รสเผ็ดนิดๆ อีกจานหนึ่งเป็น Salt & Pepper Calamari ปลาหมึกสดชุบแป้งทอดรสจัดจ้าน เผ็ดกำลังดี
หลังจากที่น้ำย่อยเตรียมพร้อมเริ่มทำงานแล้ว ขอต่อที่อาหารจานหลักกันเลย มื้อนี้เป็นแนวอาหารฝรั่งซะหน่อย อาหารหลักจานแรกเป็นพิซซ่า ขอสั่งแบบ Half เพราะอยากทานทั้งหน้า Parma Ham Truffle และ Hawaiian (สามารถสั่งแบบ Half ได้ทุกหน้า ยกเว้นหน้า Four Cheese ครับ) แป้งพิซซ่าบางกรอบ หน้ามาเต็มมาก
จานต่อมาเป็น Nero di Seppie เห็นสีแล้วอย่าเพิ่งตกใจ จานนี้เป็นสปาเก็ตตี้ กุ้ง ปลาหมึก ผัดกับหมึกดำ เห็นดำอย่างนี้ อร่อยใช่เล่น และ Grilled Chicken Burger ที่เราสามารเลือกขนมปังได้เอง เลยขอเลือกเป็นแบบ Panini เป็นเหมือนแป้งพิซซ่าบางกรอบ เสิร์ฟพร้อมเฟรนซ์ฟรายร้อนๆ เนื้อไก่ชิ้นโต นุ่มมากๆ ครับ
อาหารจานหลักจานสุดท้ายของมื้อนี้ คือ Pork Rib ซึ่งเราสามารถเลือก Sauce ได้เอง เลยขอลองตามที่ Chef Recommend ไว้ซึ่งคือน้ำจิ้มแจ่ว สำหรับ Side Dish เลือกเป็น Mash Potato และ Grilled Veggies
ทานคาวเสร็จไม่ทานหวานแล้วเหมือนไม่สุด 555+ มาดูเมนูของหวานกันบ้าง ที่นี่เค้าแนะนำ Vanilla Panna Cotta เนื้อนุ่มไม่หวานจนเกินไป มาพร้อมไอศกรีมวนิลลา บลูเบอร์รี่ สตอร์เบอร์รี่ โรยหน้าด้วยฝอยทอง และตบท้ายด้วย Lychee Sorbet
สำหรับมื้อเย็นเรายังคงฝากท้องไว้ที่ Baba Beach Restaurant เช่นเดิมเพราะมาอยู่ Baba Beach ทั้งที ก็ไม่อยากออกไปไหนแล้วหละ โดยมื้อนี้ขอลองเป็นอาหารไทย
เริ่มที่เครื่องดื่มเป็น Strawberry Passion ที่มีส่วนผสมของ Strawberry, Passion Fruit และ Apple Juice เปรี้ยวหวานลงตัว อีกแก้วหนึ่งคือ Bramble ที่มีส่วนผสมของ Apple, Hibiscus Juice, Blueberry, Vanilla และ Lime ออเดิร์ฟคราวนี้เป็น Caesar Salad ที่มาพร้อม Poached Egg สด อร่อยทีเดียว
อาหารจานหลักขอเป็นอาหารใต้อย่างแกงปู ที่สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ตามความสามารถของแต่ละคน จะจัดจ้านระดับประถมหรือปริญญาเอกก็สามารถสั่งได้เลย จานนี้พอพนักงานมาเสิร์ฟ เราถึงขั้นตกใจกันเลย เพราะเนื้อปูมาเยอะมากๆ มาเป็นก้อนเป้งๆ ไม่ใช่แค่เศษๆ ตักไปเจอแต่เนื้อ ทานฟินเลยทีเดียว
จานต่อมาเป็นกุ้งลายเสือพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด เสริ์ฟพร้อม Herbed Potato และ Asparagus & Snow Peas กุ้งตัวใหญ่ เนื้อหวานมาก ต้องลองๆ และจานสุดท้ายคือทอดมันกุ้งครับ ชิ้นใหญ่บึ้มเลย
ของหวาน มื้อนี้ขอลอง Chocolate Brownie และ ไอศกรีม Home Made รสมะพร้าว
หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศการทานอาหาร แค่เดินมาที่อาคารด้านข้างที่อยู่ติดกัน ชื่อ บ้านโชค ซึ่งเป็นบ้านเก่าแก่ของตระกูลโชควัฒนา ที่ยังคงดีไซน์เดิมไว้ พร้อมด้วยความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ ด้านหน้ามีเบาะนั่งมาวางไว้ เหมือนกับ Baba Nest ของศรีพันวา สามารถทานอาหารหรือเครื่องดื่มพร้อมชมวิวทะเลได้อย่างเพลิดเพลิน มุมนี้เป็นจุดที่ถ่ายรูปขึ้นมาก ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน ถ่ายด้วยกล้องใหญ่ หรือมือถือก็ออกมาสวยงามจริงๆ
มีที่นั่งให้เลือกทั้งโซนด้านนอกและด้านใน
เรื่องบรรยากาศชนะเลิศไปแล้ว ลองมาดูเรื่องของอาหารกันบ้าง เมนูแรกที่อยากให้ลอง ก็คือ Grilled Snapper Salad ผักสดกรอบ เนื้อปลานุ่ม พร้อมด้วยน้ำสลัดรสกลมกล่อม
ต่อด้วย Spaghetti Crab Meat Pink Sauce สปาเก็ตตี้รสจัดจ้านพร้อมด้วยเนื้อปูแบบเต็มๆ และ Baba Chicken Wings ไก่ทอดที่หมักได้อย่างเข้าเนื้อ พร้อมซอสให้เลือกตามชอบ เห็นหน้าตาแบบนี้ รสชาติไม่ธรรมดาจริงๆ นะ
อีกหนึ่งจานที่อยากแนะนำ ก็คือ Pizza หน้าต้มยำสุดจี๊ด และหน้า Presto Chicken ที่ได้รสชาติเด็ดสุดๆ
ตบท้ายด้วยของหวาน อย่าง Jasmine Creme Brulee ขอบอกว่าไม่ควรพลาด
บรรยากาศสวยงามทั้งกลางวัน และกลางคืน เดินไปทางไหนก็มีแต่เสียงเพลง สมกับที่เป็น Music Lovers Hotel อย่างแท้จริง ใครที่ต้องการพักผ่อนในวันหยุด พร้อมด้วยการบริการเหนือระดับ โดยไม่ต้องเดินทางไกลจาก กทม. มากนัก ลองมาบันทึกเที่ยวในแบบของคุณกันที่บาบาบีชคลับหัวหินกันครับ รับรองว่าต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน…“Baba Beach Club Hua Hin ดื่มด่ำสุนทรีย์แห่งดนตรีที่ลงตัว”
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^